3 ผู้บริหารนิวเจน โชว์วิชั่นนำธุรกิจบุกตลาดโกลบอล

ดร.ณภัทร จาตุศรีพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท Siametrics Consulting และviaLink นายกรวัฒน์ เจียรวนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ก่อตั้ง บริษัท amity และนายเดิมพัน อยู่วิทยา ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แรพพิด กรุ๊ปร่วมเสวนาในเซสชั่น New Gen New Business New Idea บนเวที Thailand ECONOMIC OUTLOOK 2023 ของเครือเนชั่น โดยกล่าวถึงทิศทางธุรกิจยุคใหม่ที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว พร้อมเป้าหมายการเดินหน้าสู่การเป็นโกลบอลบิซิเนสและรีจินัลบิซิเนส

นายเดิมพัน อยู่วิทยา ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แรพพิด กรุ๊ปกล่าวว่า มีเป้าหมายที่จะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนใน NASDAQ ภายในปี 2030 ด้วยทิศทางบริษัทที่ต้องการสเกลในบิ๊กมาร์เก็ต เพราะฉะนั้นเป้าหมายการเติบโตจึงมองไปที่ตลาดโกลบอล 

การขยับไปสู่ตลาดโกลบอล สิ่งสำคัญที่ต้องทำ คือ ต้องมีการวางแผนที่ดี มีวิชั่นที่ชัดเจน เเพื่อเลือกโฟกัสในธุรกิจที่ถูกต้อง โดยจะต้อง Unlearn และ Relearn ตลอดเวลา ซึ่งไม่เพียงแค่ตัวผู้บริหาร แต่หมายรวมถึงทีมงานที่ต้อง Unlearn และRelearn ตลอดเวลาด้วย

 

นอกจากนี้ การที่จะผลักดันให้ธุรกิจก้าวหน้าได้ จะต้องมีการศึกษา Consumer Insight ให้ดี มีการสอบถามลูกค้าตัวจริงแล้วทำการศึกษาวิจัยอย่างละเอียด เพื่อสามารถสร้างโปรดักส์ หรือบริการได้ตอบโจทย์ตรงใจลูกค้ากลุ่มเป้าหมายให้แม่นยำที่สุด ซึ่งการที่จะได้มาของข้อมูลที่แท้จริงของ Consumer Insight คือRelationship นั่นเอง ที่จะทำให้สามารถเลือกประตูถูกตั้งแต่วันแรกที่ลงทุน

 

ส่วนเรื่องของ "คน" ซึ่งเป็นหัวใจหลักของการทำธุรกิจ หากเราสามารถโฟกัสตลาดที่ชัด สร้างโปรดักส์ที่ถูกต้องได้ ก็จะสามารถดึงดูดคนที่ใช้ ที่มี mindset ตรงตามที่เราต้องการ เข้ามาเป็นทีมงานที่แข็งแกร่งขององค์กรได้

 

ดร.ณภัทร จาตุศรีพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท Siametrics Consulting และviaLink  กล่าวไปในทิศทางเดียวกันว่า การเป็นธุรกิจในโลกยุคใหม่ อย่างเทคคัมปานี หรือฟินเทค ควรเติบโตและเดินหน้าสู่เวทีโลก ซึ่ง บริษัท Siametrics Consulting ก็มีเป้าหมายที่จะขยายตลาดสู่ระดับโกลบอลเช่นกัน ส่วน viaLink เป็นธุรกิจที่มีเป้าหมายในการเป็นกลไกขับเคลื่อนธุรกิจในประะเทศ ที่ปัจจุบันรองรับธุรกิจใหญ่อยู่แล้ว และกำลังพยายามเข้าถึงเอสเอ็มอี เพื่อยกระดับการเข้าถึงระบบการเงินได้ดียิ่งขึ้น

 

"และแน่นอนว่า เมื่อวิชั่นมันได้ ไปไกลถึงตลาดโลก และสร้างการเปลี่ยนแปลงระดับโลกได้ ก็จะดึงดูดทาเลนต์ เราต้องดึงคนเก่งๆ เข้ามาทำ และโฟกัสว่าโปรดักส์เราดี...ใช้แล้วต้นทุนลด ใช้แล้วมันได้งานที่ดีกว่า"

 

ทาเลนต์ เป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญสำหรับการทำธุรกิจ การที่จะดึงดูดระดับท็อปทาเลนต์ เรื่องที่สำคัญ คือ สิ่งที่เขาทำทุกวัน สามารถตอบโจทย์ที่เขาต้องการได้หรือเปล่า ทำแล้วเท่ไหม ผู้บริหารจะบอกว่า อยากให้งานออกมาดี แต่คนรุ่นใหม่มองว่าสิ่งที่เขาทำออกมาต้องเท่ ดูดี มีคุณค่า เพื่อนดูแล้วเพื่อนว้าว มันไม่ใช่แค่เงินเดือนแต่เขาต้องรู้ว่า เขาเวลาไปกับอะไร 

ด้านนายกรวัฒน์ เจียรวนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ก่อตั้ง บริษัท Amity จำกัดกล่าวว่า Amity เพิ่มทุนไปแล้ว 30 ล้านเหรียญสหรัฐ จากรีจินัลฟันด์ โดยวันนี้ 95% เงินทุนที่ได้ มาจากนักลงทุนยุโรปและสหรัฐอเมริกา รวมถึงกลุ่มลูกค้าที่ใช้บริการของบริษัท ส่วนใหญ่ก็มาจากยุโร และสหรัฐอเมริกาเช่นกัน 

 

เป้าหมายต่อไปของ Amity คือการระดมทุนเพิ่ม เพื่อการขับเคลื่อนบริษัทเข้าแข่งขันกับบริษัทที่ซิลิคอน วัลเล่ย์ และเป้าหมายต่อไป คือ การนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาด NASDAQ เช่นกัน 

 

"การที่จะทำให้เราไปถึงเป้าหมายได้ อย่างแรก คือ willing หรือความตั้งใจของทีมบริษัทเราเกินครึ่งเป็นต่างชาติ มีทีมงานต่างชาติต่างภาษากว่า 30 ประเทศ เราต้องพร้อมที่จะให้เขาทำในสิ่งที่เขาอยากทำ เราต้องไปหาทาเลนต์ เพราะทาเลนต์สำคัญที่สุด"

 

อีกหนึ่งประเด็นสำคัญ ที่ Amity ต้องการพัฒนาต่อไปคือ การรองรับกลุ่มเอสเอ็มอีให้เข้าถึงเทคโนโลยียุคใหม่ เพื่อยกระดับเอสเอ็มอีไทย