นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผย หลังจากหารือกับนายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ว่าถือเป็นอีกมิติในการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐกับเอกชนในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจการค้าของประเทศ กระทรวงพาณิชย์ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด โดยจัดตั้ง กรอ.พาณิชย์ เพื่อเป็นเวทีสำคัญในการขับเคลื่อนการค้าการส่งออก โดยวันนี้ดำเนินการตามนโยบายเชิงรุกและเชิงลึก ติดตามการเปิดตลาดการค้าและด้านอื่นระหว่างไทยกับซาอุดิอาระเบียหลังซึ่งหลังจากนี้
ทั้งภาครัฐและเอกชนจะทำงานร่วมกันอย่างเข้มข้น เน้นทำงานทั้งเชิงรุกและเชิงรับ รุกในที่นี้คือการมองหากโอกาสในตลาดมใหม่ๆเช่น ซาอุดิอาระเบีย มองโกเลีย หรือมารุกไปในเมืองรองตามมณฑลใหญ่ๆ ซึ่งได้ให้การบ้านทูตพาณิชย์ไปดำเนินการ เพื่อรับมองกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในหลายประเทศและกำลังซื้อที่ลดลง ซึ่งที่ผ่านมาไทยยังคงทำได้ดีในเรื่องส่งออกและยังถือว่าเป็นเครื่องจักรเดียวที่พยุงเศรษฐกิจไทยในขณะนี้
นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า แม้ว่าหลายประเทศจะเริ่มมีเศรษฐกิจถดถอยกำลังซื้อลดลง แต่กระทรวงพาณิชย์ยังคงเดินหน้าทำงานเชิงรุก และเชิงรับ รุกในตลาดใหม่ๆ
เช่นตลาดซาอุดิอาระเบีย ตลาดมองโกเลีย การเจาะเมืองรองเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นโจทย์ที่มอบให้ทูตพาณิชย์ไปดำเนินการ ส่วนปีหน้าก็ยังคงต้องติดตามดูแต่ยังมั่นใจว่าส่งออกไทยยังคงขยายตัวเพราะขณะนี้ภาครัฐและเอกชนต่างจับมือร่วมกันทำงาน เอกชนอยากได้อะไรภาครัฐก็จะจัดหาให้ เพื่อให้การขยายตลาดมีความคล่องตัวมากขึ้น
ด้านนายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ถือว่าเป็น เป็นมิติใหม่ไม่เคยทำงานใกล้ชิดขนาดนี้ ภาครัฐทำงานเชิงรุกท่านรองนายกฯมีความเข้าใจภาคเอกชน ในความต้องการและแก้ปัญหาทุกอย่าง คิดว่าการจับมือร่วมมือกันโดย กรอ.พาณิชย์ ที่ท่านทำขึ้นมาทำให้พวกเราทำงานสะดวกคล่อง และจะมีกิจกรรมร่วมกันอย่างต่อเนื่อง
“เอกชนได้เดินทางไปซาอุดีอาระเบีย ประเทศที่มีศักยภาพและเป็นประตูเข้าสู่ประเทศตะวันออกกลางและภูมิภาคอื่นในอนาคต สินค้าไทยเป็นโอกาสที่ดี รวมทั้งสินค้าในหมวดก่อสร้าง อุตสาหกรรมอื่นที่เกี่ยวเนื่อง และอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ตอบรับดีมาก”
สำหรับ ตลาดซาอุดีอาระเบีย เป็นตลาดใหม่ที่มีศักยภาพและกำลังรอการเติบโต โดยมูลค่าการส่งออกสินค้าไทยไปซาอุดีอาระเบีย ในเดือน ม.ค.-ส.ค. 65 อยู่ที่ 43,114 ล้านบาท ขยายตัวถึง15.9% โดยสินค้าสำคัญที่ไทยส่งออกไปซาอุดีอาระเบีย อาทิ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ ผลิตภัณฑ์ยาง อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป และเครื่องจักรและส่วนประกอบของ เครื่องจักร รวมถึงอาหารสัตว์ เป็นต้น