นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในช่วง 3 ไตรมาสแรก (ม.ค. - ก.ย.) ของปี 2565 มีการอนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย จำนวน 436 ราย โดยเป็นการลงทุนผ่านช่องทางการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว และการขอหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว แบ่งเป็น ใบอนุญาตประกอบธุรกิจ จำนวน 164 ราย และหนังสือรับรองประกอบธุรกิจ จำนวน 272 ราย เม็ดเงินลงทุนทั้งสิ้น 99,369 ล้านบาท จ้างงานคนไทยกว่า 4,041 คน
โดยชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุนมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ญี่ปุ่น 110 ราย เงินลงทุน 34,972 ล้านบาท สิงคโปร์ 71 ราย เงินลงทุน 11,425 ล้านบาท สหรัฐอเมริกา 61 ราย เงินลงทุน 3,305 ล้านบาท ฮ่องกง 28 ราย เงินลงทุน 7,788 ล้านบาท และ จีน 21 ราย เงินลงทุน 20,754 ล้านบาท
เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2564 (ม.ค. - ก.ย.) พบว่า การอนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย เพิ่มขึ้น 47 ราย คิดเป็น 12% (ปี 2565 อนุญาต 436 ราย ปี 2564 อนุญาต 389 ราย) เม็ดเงินลงทุนเพิ่มขึ้น 44,781 ล้านบาทหรือ 82% (ปี 2565 ลงทุน 99,369 ล้านบาท ปี 2564 ลงทุน 54,588 ล้านบาท) และจ้างงานคนไทยเพิ่มขึ้น 490 ราย คิดเป็น14% (ปี 2565 จ้างงาน 4,041 คน ปี 2564 จ้างงาน 3,551 คน) โดยปี 2564 ชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุนสูงสุด คือ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และ สหรัฐอเมริกา เช่นเดียวกับปี 2565
“3 ไตรมาสแรก (ม.ค. - ก.ย.) ของปี 2565 ธุรกิจที่ได้รับอนุญาตส่วนใหญ่เป็นธุรกิจที่สอดคล้องกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ นโยบายส่งเสริมการลงทุนของภาครัฐ และสนับสนุนธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ เช่น บริการออกแบบ ก่อสร้าง ติดตั้ง บริการขุดเจาะหลุมปิโตรเลียม ขุดลอก ถมทะเลและก่อสร้างม่านดักตะกอนเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ในโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด เป็นต้น
สำหรับการลงทุนในพื้นที่ EEC ของนักลงทุนต่างชาติ 3 ไตรมาส (ม.ค. - ก.ย.) ปี 2565 มีนักลงทุนต่างชาติสนใจลงทุนในพื้นที่ EEC จำนวน 80 ราย คิดเป็น 18% ของจำนวนนักลงทุนทั้งหมด โดยมีมูลค่าการลงทุนในพื้นที่ EEC กว่า 40,555 ล้านบาทของเงินลงทุนทั้งหมด
ทั้งนี้ เป็นนักลงทุนจากประเทศญี่ปุ่น 34 ราย ลงทุน 23,256 ล้านบาท สิงคโปร์ 8 ราย ลงทุน 2,006 ล้านบาท และ สหรัฐอเมริกา 6 ราย ลงทุน 1,075 ล้านบาท ธุรกิจที่ลงทุน เช่นโทรคมนาคมเพื่อสาธารณะ (Public Switched Telecommunication Service) บริการตรวจสอบและวิเคราะห์สภาพการทำงานของเครื่องจักรชนิดหมุน โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Services) ด้วยระบบคลาวด์ (Cloud) และเทคโนโลยีเซ็นเซอร์ (Sensor Technology) เป็นต้น
ทั้งสนี้ คาดว่าอีกไตรมาสสุดท้าย (ต.ค. - ธ.ค.) ของปี 2565 จะมีนักลงทุนต่างชาติเข้ามาประกอบธุรกิจในไทยอย่างต่อเนื่อง เป็นผลมาจากภาครัฐมีมาตรการส่งเสริมการลงทุน กระตุ้นเศรษฐกิจโดยให้มีการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ และเพิ่มการอำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุน ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศเพิ่มขึ้น เป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยเสริมให้เศรษฐกิจของไทยฟื้นตัวได้เร็วขึ้น