นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ธุรกิจแฟรนไชส์ หรือ โมเดลแฟรนไชส์ เป็นสาขาธุรกิจที่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจอย่างมากให้กับประเทศ และมีทิศทางการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2564 มูลค่าทางเศรษฐกิจของธุรกิจแฟรนไชส์มีมากกว่าสามแสนล้านบาท มีจำนวนธุรกิจแฟรนไชส์รวมกันมากกว่า 600 กิจการ ทั่วประเทศ มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยช่วง 3 ปีที่ผ่านมา อยู่ที่ร้อยละ 20 ต่อปี เมื่อเทียบกับ GDP ของประเทศซึ่งมีอัตราเติบโตอยู่ที่ร้อยละ 1.6 ต่อปี
ทำให้ธุรกิจแฟรนไชส์มีส่วนสำคัญในการผลักดันให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโตอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น การที่ภาครัฐส่งเสริมผลักดันให้ผู้สนใจลงทุนในระบบแฟรนไชส์นำไปสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ควบคู่การพัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ของภาครัฐให้มีมาตรฐานเทียบเท่าระดับสากล จะทำให้แฟรนไชส์ไทยมีความเข้มแข็งมากขึ้น ส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศที่มีความแข็งแกร่งมากขึ้นในสถานการณ์ปัจจุบันด้วยเช่นกัน
ดังนั้น หลังเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา ธุรกิจแฟรนไชส์ที่กระทรวงพาณิชย์ใช้เป็นโมเดลสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจจึงเน้นการสร้างความเข้มแข็งแบบคู่ขนาน สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้ประเทศ ทั้งนี้ การที่ภาคธุรกิจจะช่วยเหลือภาคประชาชนได้ ภาคธุรกิจจำเป็นต้องมีความเข้มแข็งและมั่นคงในธุรกิจก่อน โดยมีภาครัฐให้การส่งเสริมสนับสนุนอย่างเต็มที่ เมื่อธุรกิจมีความพร้อมและแข็งแกร่งแล้ว ก็จะสามารถช่วยเหลือภาคประชาชนให้มีอาชีพและชีวิตที่ดีด้วยเช่นกัน
เบื้องต้น กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้กำหนดแผนสร้างความเข้มแข็งธุรกิจแฟรนไชส์ โดยนำธุรกิจแฟรนไชส์ที่อยู่ในการส่งเสริมของกระทรวงพาณิชย์จำนวน 424 กิจการ เข้าร่วมงานแสดงและจำหน่ายสินค้าในประเทศ รวมทั้ง เปิดพื้นที่ให้คำปรึกษาแนะนำเกี่ยวกับการส่งเสริมธุรกิจแฟรนไชส์แก่นักลงทุนและผู้สนใจ ใช้รูปแบบการนำเสนอ/เจรจาธุรกิจผ่านช่องทางออฟไลน์และออนไลน์
โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้าจะเป็นตัวกลางประสานความร่วมมือระหว่างภาคธุรกิจและนักลงทุน ซึ่งเป็นการสร้างโอกาสทางการตลาดให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจแฟรนไชส์ สร้างทักษะ/ประสบการณ์ในการนำเสนอธุรกิจ รวมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบธุรกิจแฟรนไชส์ได้มีเวทีพบปะนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศเพื่อเจรจาธุรกิจและเลือกลงทุนในระบบแฟรนไชส์ ส่งผลให้ธุรกิจมีความเข้มแข็งและสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้ประเทศ