ราคาน้ำมัน WTI ปรับเพิ่ม 1.2% ปิดที่ 86.92 ดอลลาร์ /บาเรล
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคาร (15 พ.ย.) หลังจากมีรายงานว่า ท่อส่งน้ำมันที่ลำเลียงน้ำมันไปยังฮังการีนั้น ถูกระงับชั่วคราวเนื่องจากพบปัญหาแรงดันตก นอกจากนี้ การอ่อนค่าของดอลลาร์ยังเป็นปัจจัยหนุนตลาดน้ำมัน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.05 ดอลลาร์ หรือ 1.2% ปิดที่ 86.92 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 72 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 93.86 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นหลังจากสำนักข่าวอาร์ไอเอของรัสเซียรายงานว่า ท่อส่งน้ำมันดรูซบา (Druzhba) ของบริษัททรานส์เนฟท์ของรัฐบาลรัสเซีย ถูกระงับเป็นการชั่วคราวเนื่องจากพบปัญหาแรงดันตก
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า ทางการสหรัฐกำลังตรวจสอบรายงานที่ว่าขีปนาวุธของรัสเซียถูกยิงตกในหมู่บ้านแห่งหนึ่งทางฝั่งตะวันออกของโปแลนด์ซึ่งมีพรมแดนติดกับยูเครน โดยเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย
นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ รวมทั้งการที่สหภาพยุโรป (EU) เตรียมคว่ำบาตรน้ำมันดิบรัสเซียในวันที่ 5 ธ.ค. โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.24% แตะที่ 106.4070 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ การอ่อนค่าของดอลลาร์ทำให้สัญญาน้ำมันดิบซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาถูกลงและน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) วันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์สต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 300,000 บาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว