ทองคำนิวยอร์กปิดร่วง12.8 ดอลลาร์ ดอลล์แข็ง-บอนด์ยีลด์พุ่งทุบตลาด

18 พ.ย. 2565 | 00:04 น.
อัปเดตล่าสุด :18 พ.ย. 2565 | 07:09 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันพฤหัสบดี (17 พ.ย.) เนื่องจากการแข็งค่าของดอลลาร์และการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเป็นปัจจัยกดดันตลาดทองคำ

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 12.8 ดอลลาร์ หรือ 0.72% ปิดที่ 1,763 ดอลลาร์/ออนซ์
         

 

  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 54.9 เซนต์ หรือ 2.55% ปิดที่ 20.975 ดอลลาร์/ออนซ์
  • สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ร่วงลง 24.7 ดอลลาร์ หรือ 2.43% ปิดที่ 991.5 ดอลลาร์/ออนซ์
  • สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 71.30 ดอลลาร์ หรือ 3.4% ปิดที่ 2,010 ดอลลาร์/ออนซ์

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.39% แตะที่ 106.6930 ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นระดับ 3.784% เมื่อคืนนี้

         

ทั้งนี้ การแข็งค่าของดอลลาร์ส่งผลให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ ส่วนการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐจะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย


ตลาดทองคำยังถูกกดดันจากการที่นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์ สนับสนุนให้เฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
         

 

ทั้งนี้ นายบูลลาร์ดกล่าวว่า "แม้ว่าเฟดได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยขึ้นสู่กรอบ 3.75% - 4.00% ในปีนี้ แต่ก็ยังต่ำกว่าระดับที่เฟดมองว่ามีการคุมเข้มมากพอที่จะฉุดเงินเฟ้อให้กลับสู่เป้าหมายที่ระดับ 2% ซึ่งกรอบอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับคุมเข้มอย่างมีประสิทธิภาพก็คือ 5% - 7%"