คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ฝากถึงรัฐบาลให้ใช้โอกาสในการเป็นเจ้าภาพเอเปค ทำให้คนทั้งโลกเห็นศักยภาพของประเทศไทย เพื่อฟื้นความเชื่อมั่นของประเทศอีกครั้ง เพราะที่ผ่านมาประเทศไทยมีความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจน้อยกว่าประเทศอื่นในภูมิภาคมาก ขณะที่ทั้งประเทศ และประชาชนมีหนี้สินสูง แต่รายได้ต่ำลง จึงจำเป็นต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่น เพื่อดึงดูดการลงทุน และสร้างรายได้ใหม่ คือ
1. การสร้างรายได้จากฐานเดิมที่ไทยมีความแข็งแกร่ง คือ การสร้างรายได้จากเกษตร อาหารการท่องเที่ยว และการดูแลและรักษาสุขภาพ โดยเฉพาะบริการทางการแพทย์และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ก็เป็นอีกภาคส่วนหนึ่ง ที่ช่วยสร้างรายได้ให้ประเทศเพิ่มขึ้นอย่างน่าสนใจ
รัฐบาลจึงควรขยายจุดแข็งของการท่องเที่ยวไป พร้อมกับการปิดจุดอ่อนด้านการท่องเที่ยวไทยที่ถูกต่างชาติกำลังจับตามอง ได้แก่ เรื่องสวัสดิภาพความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว เรื่องสุขอนามัย และเรื่องความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมทั้ง 3 เรื่องเป็นจุดอ่อนที่รัฐบาลต้องเร่งแก้ไข ว่ามีมาตรการ อะไรบ้างที่ใช้ในการแก้ไขปัญหา
อีกด้าน คือ รายได้จากการเป็นศูนย์กลางคมนาคมและโลจิสติกส์ ซึ่งในการประชุมครั้งนี้ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้เดินทางมาประชุมด้วยตนเอง จึงเป็นโอกาสดีที่จะทำให้ประธานาธิบดีของจีน ได้เห็นความสำคัญของประเทศไทยในเรื่องทำเลที่ตั้ง ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยได้ประโยชน์ จากการเป็นศูนย์กลางคมนาคมและโลจิสติกส์
2. ฐานรายได้ใหม่อีกหนึ่งฐาน ที่ต้องการให้รัฐบาลให้ความสำคัญเป็นพิเศษคือหารายได้ที่เกิดจาก "ภูมิรัฐศาสตร์โลกที่เปลี่ยนไป" สงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ สงครามรัสเซียกับยูเครนนำไปสู่สงครามเย็นยุคใหม่ ทำให้เกิดการกีดกันทางการค้า การย้ายฐานการผลิต
รัฐบาลไทยจึงควรใช้โอกาสนี้ สร้างตำแหน่งประเทศไทยบนภูมิประเทศของโลกใหม่ให้ชัดเจน รัฐบาลต้องใช้ความสัมพันธ์ที่ดีกับมหาอำนาจเหล่านี้ ที่มีต่อประเทศไทยมายาวนาน ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศไทยและประเทศต่างๆ
3. สุดท้ายที่สำคัญ ที่ดิฉันขอเสนอ คือ ในการประชุมครั้งนี้ควรจะหยิบยก และการผลักดันให้เกิดความร่วมมือในการสร้าง “เขตการค้าเสรีของประเทศกลุ่ม APEC” หรือ FTAAP ตามข้อเสนอของ ภาคเอกชน ที่ได้เสนอไว้แล้ว คือ 21-X ใครพร้อมเข้าก่อน เพราะจะสามารถเพิ่มการค้า การลงทุนในกลุ่มประเทศสมาชิก APEC ได้เป็นอย่างดี