นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ดร.อุตตม สาวนายน วันที่ 14 พ.ย.2565 ว่า ช่วงเวลานี้อาเซียนกำลังอยู่ในกระแสโลก เนื่องจากมีการจัดประชุมเวทีเศรษฐกิจสำคัญถึง 3 เวทีต่อเนื่องกัน เริ่มจากการประชุมสุดยอดอาเซียนที่ประเทศกัมพูชา ซึ่งเพิ่งจบลงไปเมื่อวานนี้ (13 พ.ย.) หลังจากนั้นก็จะมีการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่ม G20 ที่ประเทศอินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ 15-16 พ.ย.
และสุดท้ายที่ประเทศไทย คือ การประชุมเขตความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก หรือ เอเปค (APEC 2022 Thailand) ระหว่างวันที่ 18-19 พ.ย. ดังนั้น จึงเป็นโอกาสที่ดีของประเทศไทยในการแสวงหาความร่วมมือกับนานาชาติบนเวทีโลก
โดยเฉพาะการประชุมเอเปค ถือเป็นเวทีที่เราสามารถแสดงศักยภาพของประเทศไทยให้ประจักษ์ต่อสายตาชาวโลกได้ เพราะเอเปคเป็นความร่วมมือทางเศรษฐกิจกรอบใหญ่ที่สุดในโลก รวม 21 เขตเศรษฐกิจ ครอบคลุมประชากรเกือบ 3,000 ล้านคน
ดังนั้น การทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพที่ดี ย่อมสร้างความประทับใจให้กับผู้มาเข้าร่วมประชุม และขณะเดียวกันประเทศไทยจะสามารถสร้างโอกาสใหม่ๆด้านการค้า การลงทุน รวมถึงความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะในเวลาปัจจุบัน ที่เรายังต้องเผชิญกับความสุ่มเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
นอกจากการสร้างความประทับใจให้กับผู้มาร่วมประชุมแล้ว ผมเห็นว่าทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องควรสื่อสารในวงกว้าง ให้ประชาชนเข้าใจถึงประโยชน์ที่ประเทศไทยจะได้รับจากการประชุมเอเปค และเมื่อมีข้อสรุปความร่วมมือใดๆจากการประชุมก็สามารถที่จะสื่อสารให้ประชาชนได้รับรู้
ที่สำคัญยิ่งรัฐบาลรวมทั้งภาคเอกชน ควรร่วมกันจัดทำแผนขับเคลื่อนข้อสรุปเหล่านั้น ไปสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม โดยเน้นกิจกรรมที่จะก่อให้เกิดประโยชน์ในภาคส่วนต่างๆ ของเศรษฐกิจ ไม่เพียงแต่ด้านการค้า การลงทุนระหว่างประเทศ แต่รวมถึงกิจกรรมใหม่ๆ ที่จะช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ และกระจายรายได้ให้กับประชาชน
โดยเฉพาะแนวความคิดเรื่อง BCG (เศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว) ที่ประเทศไทยยกขึ้นมาเป็นแนวคิดหลักในเวทีการประชุมครั้งนี้ หากเราสามารถยึดโยง BCG เข้าไปสนับสนุนเศรษฐกิจฐานรากได้ ประเทศไทยจึงจะได้รับประโยชน์จากการประชุมเอเปคครั้งนี้อย่างสมบูรณ์แท้จริง