นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานกรรมการหอการค้าไทย เปิดเผยถึงแนวโน้มสินค้ากลุ่มอาหาร ว่าการส่งออกอาหารปี 2566 คาดว่าจะเติบโต 0-2% เนื่องจากปี 2565 เติบโตค่อนข้างมาก โดยการส่งออก อาหารของปี 2566 ขึ้นอยู่กับปัจจัยเสี่ยงและปัจจัยสนับสนุนเช่นความต้องการของสินค้าอาหารมีแนวโน้มสูงขึ้น
ตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่กลับมาฟื้นตัว หลายประเทศนำเข้าอาหารมากเนื่องจากให้ ความสำคัญด้านความมั่นคงทางอาหาร และภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชนฟื้นตัว อีกทั้งมีการเจรจาทางการค้ากับตลาดใหม่ๆ มากขึ้น ซึ่งเป็น การกระจายความเสี่ยงและเป็นโอกาสใหม่ของการ ส่งออกอาหารไทย
แต่อย่างไรก็ตามปีหน้าส่งออกอาหารก็ยังคงมีปัจจัยเสี่ยงรอบด้านเช่นกันไม่ว่าจะเป็นการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกเริ่มมีผลกระทบอย่าง ชัดเจน กิจกรรมในภาคผลิตของประเทศหลักชะลอส่งผลให้การส่งออกมีแนวโน้มชะลอผลจากเศรษฐกิจและกำลัง ซื้ออจากอัตราเงินเฟ้อ วิกฤติทางการค้าและเศรษฐกิจต่างๆ เช่น ความ ขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ภัยธรรมชาติ และมาตรการ ทางการค้าใหม่ๆยังต้องติดตามและธุรกิจมีแรงกดดันจากภาวะต้นทุนจากค่าไฟ ค่าแรง และวัตถุดิบ
ทั้งนี้จากการสำรวจในปี2565พบว่า สินค้าในกลุ่มอาหารดาวรุ่งในช่วง10เดือน(ม.ค.-ต.ค.)5อันดับแรกประกอบด้วย
ส่วนสินค้าอาหารที่หดตัวยังคงเป็นกลุ่มเนื้อสัตว์แช่เย็นแช่แข็งและกลุ่มผลไม้รวมถึงกลุ่มเครื่องปรุง
ส่วนคาดการณ์ปี 2566 สินค้าอาหารดาวรุ่ง โดยประเมินจากการส่งออกที่เติบโตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2563 ปัจจุบัน ได้แก่ มันสำปะหลัง ผลไม้กระป๋อง และแปรรูป ผลิตภัณฑ์ข้าวอาหารสัตว์เลี้ยง สิ่งปรุงรสอาหาร
สินค้าอาหารที่หดตัว โดยประเมินจากการส่งออกที่หดตัวอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2564ปัจจุบัน ได้แก่ สุกรสดแช่เย็นแช่แข็ง เนื่องจากในปี 2566 ยังคงต้องเฝ้าระวังโรคระบาดของหมูอย่างโรค ASF ซึ่งส่งผลต่อด้านต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น และทำให้การเพิ่ม ปริมาณยากขึ้น และสินค้าปศุสัตว์อื่นๆยังคงต้องรับมือกับความท้าทายจากแนวโน้มการบริโภคที่อาจเปลี่ยนไป เช่น การที่กลุ่ม ผู้บริโภค Flexitarian มีแนวโน้มมากยิ่งขึ้น จากกระแสสุขภาพและสิ่งแวดล้อม อาจส่งผลต่อสินค้ากลุ่มเนื้อสัตว์ได
อย่างไรก็ตามคาดว่าสินค้ากลุ่มอาหารยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องในปีหน้าเพราะประเทศคู่ค้าเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวประกอบกับยังมีกำลังซื้อจากผู้บริโภคอยู่