รฟม.โยนรถไฟฟ้าสายสีส้ม วัดใจ “ศักดิ์สยาม”ชงครม.ก่อนหมดวาระ

21 ม.ค. 2566 | 02:07 น.
อัปเดตล่าสุด :21 ม.ค. 2566 | 02:39 น.

รฟม.โยนเผือกร้อนคมนาคมวัดใจศักดิ์สยาม ชงครม. อนุมัติ ลงนามสายสีส้มให้ทันรัฐบาลบิ๊กตู่ หลังบอร์ดนัดเคาะร่างสัญญาสิ้นเดือน ม.ค.นี้

 

การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) สรุปผล การประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ในการประมูลครั้งที่ 2 ว่า บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM เป็นผู้ชนะการประมูล โดยให้ข้อเสนอด้านการลงทุนและผลตอบแทนเสนอรับอุดหนุนจากรัฐสุทธิที่ 7.8 หมื่นล้านบาท

โดยมีเป้าหมายเสนอคณะกรรมการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย  (บอร์ดรฟม.) อนุมัติร่างสัญญาลงนามร่วมกับเอกชน ภายในสิ้นเดือนมกราคมนี้ และเสนอต่อกระทรวงคมนาคมพิจารณา ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติเพื่อลงนาม

อย่างไรก็ตามเป็นที่คาดหมายกันว่าการอนุมัติ และลงนามในสัญญารถไฟฟ้าสายสีส้มจะต้องแล้วเสร็จก่อนยุบสภาหรือเลือกตั้ง แต่เบื้องต้นได้รับการยืนยันจาก รฟม.ว่า ไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่าจะลงนามตามกรอบกำหนดภายในเร็ววันนี้หรือไม่

 

เนื่องจากต้องรอคำชี้ขาดศาลปกครอง สูงสุด ตามนโยบายของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมแต่ในมุมนักวิชาการ นักการเมืองสะท้อนว่า เป็นไปได้หรือไม่หากกระทรวงคมนาคมผลักดันโครงการสายสีส้มเข้าครม. ให้ทันในสมัยรัฐบาลชุดนี้จะถูกกระแสวิพากษ์วิจารณ์ต่อต้านอย่างหนัก

ไม่ต่างจากกระทรวงมหาดไทย เสนอขยายสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวขณะความคืบหน้าปัจจุบันรฟม.ได้จัดทำร่างสัญญาส่งให้สำนักงานอัยการสูงสุดตรวจสอบ ล่าสุดได้ดำเนินการตรวจสอบและส่งหนังสือตอบกลับมายังรฟม.เรียบร้อยแล้ว

สอดคล้องกับ นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) ในฐานะประธาน บอร์ดรฟม. ยํ้าว่า หลังจากได้เอกชนผู้ชนะประมูล ขั้นตอนจากนี้ หากสำนักงานอัยการสูงสุดตรวจสอบแล้วเสร็จ จะต้องรายงานต่อบอร์ดรฟม.พิจารณา ก่อนเสนอต่อกระทรวงคมนาคม และครม.พิจารณาตามลำดับ

เนื่องจากกระทรวงคมนาคมมีนโยบายให้รอผลการพิจารณาตามกระบวนการศาลปกครองด้วย หากร่างสัญญาแล้วเสร็จรฟม.จะต้องส่งเรื่องนี้ต่อกระทรวงคมนาคมพิจารณาเพื่อตัดสินใจในการดำเนินการทั้งนี้จะมีการประชุมบอร์ด รฟม.ภายในสิ้นเดือนมกราคมนี้

โดยพิจารณาว่าจะมีกระบวนการชี้ขาดทางศาลปกครองออกมาหรือไม่อย่างไรในทางกลับกันต้องเร่งดำเนินการเพื่อไม่ให้กระทบแก่ประชาชนโดยเฉพาะการเปิดเดินรถฝั่งตะวันออกช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ที่มีความคืบหน้าไปแล้วกว่า 98%

นายนายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอสซี เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า บริษัทอยู่ระหว่างรอศาลปกครองสูงสุดตัดสินพิจารณาผลอุทธรณ์จำนวน 2 คดี

ได้แก่คดีรฟม.เปลี่ยนเกณฑ์การประมูลและคดียกเลิกการประมูลไม่ชอบด้วยกฎหมายส่วนอีก 1 คดี คือคดีกีดกันการแข่งขันในการประมูลสายสีส้มรอบ 2 อยู่ระหว่างรอศาลปกครองกลางพิจารณาคดี ทั้งนี้ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไรก็ต้องยอมรับในคำตัดสินนั้น

พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย ที่ปรึกษา ประธานกรรมการ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) เสริม ว่าคาดว่าศาลปกครองสูงสุดน่าจะตัดสินคดี ภายในปีนี้แต่ยังไม่ทราบแน่ชัดจะเป็นเมื่อใด อย่างไรก็ตามขอยํ้าว่า

ปัจจุบันบริษัทมีการฟ้องร้องคดีสายสีส้มทั้งหมด 4 คดี ประกอบด้วย

1. คดีเปลี่ยน แปลงหลักเกณฑ์ทีโออาร์ ครั้งที่ 1 อยู่ระหว่างการพิจารณาคดีจากศาลปกครองสูงสุด

2. คดียกเลิกการประมูลไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขณะนี้อยู่ระหว่างการอุทธรณ์ของศาลปกครอง

3.คดีการประมูลสายสีส้มครั้งที่ 2 ไม่ชอบด้วยกฎหมายและกีดกันการแข่งขันในการประมูลโครงการฯซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองชั้นต้น และ

4.คดีอยู่ในศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง คือคดีกีดกันการแข่งขันในการประมูลสายสีส้ม รอบ 2 ขณะนี้อยู่ระหว่างรอศาลฯอุทธรณ์ โดยกำหนดให้ทั้งรฟม.และบริษัทยื่นอุทธรณ์ภายใน 30 วัน ปัจจุบันได้มีการขยายเวลาอุทธรณ์ออกไปแล้ว 2 ครั้ง และล่าสุดบริษัทอยู่ระหว่างจัดทำคำร้องอุทธรณ์ต่อศาลอาญาฯ คาดว่าจะดำเนินการยื่นอุทธรณ์ต่อศาลฯ ในไม่ช้านี้

รฟม.โยนรถไฟฟ้าสายสีส้ม วัดใจ “ศักดิ์สยาม”ชงครม.ก่อนหมดวาระ