นายพรชัย ฐีระเวช โฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คาดว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2565 ขยายตัวได้ 3% ขณะที่ในปี 2566 นั้น ประมาณการว่าจะขยายตัวได้ 3.8% โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากภาคการท่องเที่ยวและอุปสงค์ภายในประเทศที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะปัจจัยการเปิดประเทศของจีน
ซึ่งคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามากว่า 27.5 ล้านคน จากเดิมประมาณการว่าจะเข้ามาที่ 21.5 ล้านคน
“ประเมินว่า ตอนนี้เศรษฐกิจไทยกำลังอยู่ในทิศทางขาขึ้น หากเปรียบเทียบกับในช่วงที่ผ่านมา จากปี 2564 ขยายตัวได้ 1.5% ขณะที่ปี 2565 คาดว่าขยายตัวได้ 3% แม้มีการปรับประมาณการลงจากเดิมคาดว่าขยายตัวได้ 3.2% แต่ยังสูงกว่าปี 2564 และในปี 2566 นี้ ประเมินว่าจะสามารถขยายตัวได้ถึง 3.8%”
ขณะที่การบริโภคภาคเอกชนคาดว่าจะขยายตัวที่ 3.5% ตามรายได้ภาคประชาชนที่เพิ่มขึ้น โดยบทบาทของนโยบายการคลังจะยังมีส่วนช่วยบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง ส่วนการลงทุนภาคเอกชนคาดว่าจะขยายตัวที่ 3.6%
ส่วนการส่งออกสินค้านั้น คาดว่าจะชะลอลงตามการชะลอลงของอุปสงค์ประเทศคู่ค้าสำคัญ โดยคาดว่าการส่งออกสินค้าในรูปเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐจะขยายตัวที่ 0.4% (ช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ -0.1 ถึง 0.9)
"ยอมรับว่ามีโอกาสที่การส่งออกจะติดลบ แต่มองว่าจะยังไม่ถึงจุดนั้น ซึ่งต้องมีการติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจประเทศคู่ค้าอย่างต่อเนื่อง โดยกระทรวงการคลังก็คาดว่าเศรษฐกิจ 15 ประเทศคู่ค้าหลักของไทย จะขยายตัวได้ 2.7%"
ขณะที่ด้านเสถียรภาพภายในประเทศ คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะอยู่ที่ 2.8% (ช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 2.3 ถึง 3.3) ปรับเข้าสู่กรอบเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 1.0 – 3.0% เนื่องจากราคาพลังงานโลกที่ลดลง
สำหรับเสถียรภาพภายนอกประเทศ คาดว่าดุลบัญชีเดินสะพัดจะกลับมาเกินดุล 3.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็น 0.5% ของ GDP (ช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 0.0 ถึง 1.0 ของ GDP)
ทั้งนี้ ยังคงประเมินว่า เศรษฐกิจไทยยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ได้แก่