วันที่ 23 ก.พ.2566 ผู้สื่อข่าวรายงาน ผลการประชุมคณะอนุกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก จังหวัดนครราชสีมา (อจร.นม.) ที่ห้องนางสาวบุญเหลือ ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งที่ประชุมได้ติดตามความคืบหน้า การดำเนินโครงการเมกกะโปรเจ็กต์ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา
มีประะด็นสำคัญคือ ความคืบหน้าโครงการพัฒนารถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ระยะที่ 1 กรุงเทพฯ- นครราชสีมา และระยะที่ 2 นครราชสีมา-หนองคาย ผู้แทนกรมการขนส่งทางราง และผู้แทนการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) รายงาน โดยแบ่งเป็น รถไฟความเร็วสูง ระยะที่ 1 (กรุงเทพฯ - นครราซสีมา) ผลงานในภาพรวม 14.14 % งานก่อสร้างโยธาแบ่งเป็น 14 สัญญา ก่อสร้างแล้วเสร็จ 1 สัญญา อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 9 สัญญา ลงนามสัญญา 1 สัญญา และอยู่ระหว่างประกวดราคา 3 สัญญา
และรถไฟความเร็วสูง ระยะที่ 2 (นครราชสีมา - หนองคาย) รฟท.ได้ออกแบบแล้วเสร็จ อยู่ระหว่างปรับปรุงรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ตามความเห็นของคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (คชก) ครั้งที่ 2/2565 เมื่อวันที่ 14 ม.ค. 2565 คาดว่าจะส่งให้รฟท. ภายในเดือน ก.ย. 2565 ก่อนเสนอสำนักนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม (สผ.) พิจารณาดำเนินการ
ส่วนความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าทางคู่ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางจิระ และช่วงชุมทางจิระ-อุบลราชธานี ผู้แทนกรมขนส่งทางราง, ผู้แทน รฟท. ชี้แจงว่า
(1) ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางจิระ อยู่ระหว่างดำเนินการ 3 สัญญา (สัญญาที่ 1) ช่วงมาบกะเบา - คลองขนานจิตร คืบหน้า 95.17 % สัญญาที่ 3 งานอุโมงค์ คืบหน้า 92.15% และสัญญาที่ 4 งานระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม) ส่วนสัญญาที่ 2 ช่วงคลองขนานจิตร - ชุมทางถนนจิระ อยู่ระหว่างการศึกษาทบทวนแบบรูปแบบรายละเอียด รฟท. อยู่ระหว่างเสนอรูปแบบทางเลือกโครงสร้างทางรถไฟเสนอกระทรวงคมนาคมเพื่อพิจารณา กรณีมีการร้องเรียนช่วงเทศบาลบ้านใหม่ ในเขตอำเภอเมืองนครราชสีมา ต้องการให้ปรับรูปแบบคันทางรถไฟในพื้นที่ ให้เป็นโครงสร้างยกระดับ เพื่อลดปัญหาเรื่องการระบายน้ำและการจราจร และ
(2) ช่วงชุมทางจิระ-อุบลราชรานี ออกแบบรายละเอียดแล้วเสร็จ คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (กก.วล.) เห็นชอบรายงาน EIA เมื่อวันที่ 20 ก.ค. 2563 ขณะนี้อยู่ระหว่างจัดเตรียมข้อมูลโครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 จำนวน 3 เส้นทาง (ช่วงขอนแก่น-หนองคาย, ช่วงชุมทางถนนจิระ อุบลราชธานี และช่วงปากน้ำโพ-เด่นชัย) เสนอกระทรวงคมนาคม เพื่อให้ความเห็นซอบก่อนเสนอขออนุมัติโครงการต่อไป
ขณะที่ตัวแทนจากเทศบาลนครนครราชสีมา ขอรับแบบรูปการก่อสร้างรถไฟทางคู่ในช่วงที่ผ่านเขตเทศบาลฯ เพื่อพิจารณาว่ารูปแบบการก่อสร้างมีผลกระทบต่อระบบโครงสร้างพื้นฐานของชุมชน ในระหว่างการก่อสร้างฯ โดยเฉพาะระบบประปา ซึ่งมีการวางท่อใต้ดิน
สำหรับความคืบหน้าโครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดนครราชสีมาสายสีเขียว (ตลาดเซฟวัน-สถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพบ้านนารีสวัสดิ์) ผู้แทน รฟม.ชี้แจงว่า กระทรวงคมนาคมขอให้ทำการศึกษารูปแบบการดำเนินโครงการ ให้สอดคล้องกับสภาพปัจจุบัน เกี่ยวกับงบประมาณและจำนวนผู้โดยสาร มีการจ้างที่ปรึกษาเพิ่มเดิม ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2565 พิจารณาเทคโนโลยีระบบรถไฟฟ้าที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ในแต่ละจังหวัดเพิ่มขึ้น เป็นทางเลือกวิเคราะห์ในด้านต่าง ๆ และจะมีการนำผลการศึกษาลงพื้นที่ไปรับฟังความคิดเห็น คาดว่าจะศึกษาแล้วเสร็จ แล้วนำเสนอกระทรวงคมนาคม กระทรวงการคลัง ก่อนเสนอเข้า ครม. ในปี 2567
ส่วนความคีบหน้าโครงการพัฒนาท่าเรือบก (Dry Port) เพื่อนำไปสู่การเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ของภูมิภาค ผู้แทน กทท.ชี้แจงว่า การท่าเรือแห่งประเทศไทย กำหนดกรอบแนวทางการดำเนินการเบื้องต้น ดังนี้
- ปี 2566 - 2567 การท่าเรือฯ พิจารณาคัดเสือกพื้นที่และศึกษาความเหมาะสม ตามหลักเกณฑ์ของ PPP
- ปี 2568 เสนอกระทรวงคมนาคม คณะกรรมการ PPP และเสนอ ครม.พิจารณาอนุมัติให้ดำเนินโครงการ PPP ท่าเรือบกนครราชสีมา
- ปี 2569 เป็นขั้นตอน PPP ของการคัดเสือกเอกชน ตามมาตรา 32 และจะมีการเวนคืนจะเริ่มออก พ.ร.ฎ. เวนคืน และจ้างที่ปรึกษาสำรวจ
- ปี 2570 จ่ายค่าชดเชยที่ดิน
- ปี 2571 - 2572 เริ่มก่อสร้าง
- ปี 2573 เปิดให้บริการ
ทั้งนี้ จะมีการสร้างความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ ระยะเวลาการศึกษา 210 วัน ปี 2566 - 2570 คู่ขนานกันไป ซึ่งสามารถแก้ไขรูปแบบได้ในระหว่างดำเนินการก่อสร้าง
ด้านความคืบหน้าโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง หมายเลข 6 สายบางปะอิน-นครราชสีมา หรือมอเตอร์เวย์ (M6) และโครงการก่อสร้างทางแยกต่างระดับเชื่อมสายบางปะอิน - นครราชสีมา กับ ทางหลวงชนบทหมายเลข ขม.1120 (ถนนสุรนารี 2) อำเภอเมืองนครราชสีมา ผู้แทนกรมทางหลวง ชี้แจงว่า
1.โครงการมอเตอร์เวย์ (M6) มีทั้งหมดมี 40 ตอน สำหรับในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา มี 20 ตอน แล้วเสร็จ 17 ตอน คงเหลือ 3 ตอน รอรับจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมปี 2566 ผลงานภาพรวม 98.28% และ
2. โครงการก่อสร้างทางเชื่อมระหว่างมอเตอร์เวย์กับถนนสุรนารี 2 ระยะเวลาดำเนินการ 840 วัน สิ้นสุดสัญญา วันที่ 3 มกราคม 2567 ผลงานเร็วกว่าแผน 3.39 % ข้อเสนอจากหน่วยงานในพื้นที่ ผู้แทนภาคประชาชน ขอทราบความก้าวหน้าโครงการฯ ตอนที่ 39 ในช่วงบริเวณอำเภอขามทะเลสอ กรณีสะพานข้ามทางมอเตอร์เวย์ไม่มีทางเชื่อมต่อกับถนน จำนวน 2 สะพาน ซึ่งเบื้องต้นได้รับทราบข้อมูลว่า ไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณประจำปี 2566 และกรมทางหลวงได้ของบประมาณประจำปี 2567
ด้านความคืบหน้าโครงการก่อสร้างอุโมงค์ทางลอด บริเวณจุดตัตทางหลวงหมายเลข 2 กับทางหลวงหมายเลข 224 แยกนครราชสีมา (บิ๊กชี) และบริเวณทางแยกบ้านประโดก (พีกาชัส) ผู้แทนกรมทางหลวงชี้แจงว่า
จุดที่ 1 อุโมงค์แยกนครราชสีมา (บิ๊กชี) ลักษณะโครงการจะเป็นอุโมงค์ช่องทางออก 2 ช่องจราจร (ทิศทางไปสระบุรี) อยู่ในงบประมาณปี 2566 งบประมาณ 480 ล้านบาท และ 2. อุโมงค์แยกประโดก (พีกาชัส) เป็นทางลอด 6 ช่องจราจร ไป 3 ช่องจราจร กลับ 3 ช่องจราจร
อยู่ในงบประมาณปี 2566 งบประมาณ 850 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการประกาศจัดซื้อจัดจ้าง ภายในเดือน ก.ย. 2566 จะดำเนินการก่อสร้าง โดยทั้ง 2 อุโมงค์คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จปี 2568