ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 7 ก.พ.2566 ที่จุดตัดทางรถไฟบ้านโนนตาโก้ ต.กุดจิก อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา มีการชุมนุมของประชาชน ตลอดจนครู-นักเรียน ที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงกว่า 200 คน นำโดย น.ส.จันทินา อัครปรีดี ตัวแทนราษฎรผู้ได้รับผลกระทบ นายวัธวุฒิ คลาดสูงเงิน นายก อบต.กุดจิก และนายเจริญ ดีสูงเนิน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 บ้านโนนตาโก้ เพื่อเรียกร้องให้หยุดก่อสร้าง โดยครั้งนี้ผู้แทนศูนย์ดำรงธรรม ได้เชิญตัวแทนบริษัทที่ดำเนินการก่อสร้างโครงการดังกล่าว เข้าชี้แจงข้อเท็จจริงกับประชาชน
น.ส.จันทินา อัครปรีดี ตัวแทนราษฎรผู้ได้รับผลกระทบ เปิดเผยว่า จากที่การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) ก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงช่วง กุดจิก-โคกกรวด ตัดผ่านพื้นที่ตำบลกุดจิก เป็นทางระดับดินมีคันดินกั้น ทั้งหมดเป็นระยะทาง 9.5 กิโลเมตร ซึ่งผู้รับเหมาคือบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ได้เข้าพื้นที่ และเริ่มดำเนินการก่อสร้างมาตั้งแต่เดือน พ.ค.2564 ปรากฏว่าการก่อสร้างดังกล่าวได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการดำรงชีวิตของชุมชน ทั้งเรื่องปัญหาน้ำท่วมหนักบ้านเรือนราษฏร และพื้นที่ทางการเกษตรของชาวบ้านได้รับความเสียหาย เนื่องจากการก่อสร้างคันดินของโครงการดังกล่าวส่งผลให้การระบายน้ำล่าช้า
นอกจากนี้ยังจะทำให้วิถีชีวิตของประชาชนในชุมชนตำบลกุดจิกต้องเปลี่ยนไป เพราะทางรถไฟระดับคันดินจะแบ่งชุมชนออกเป็นสองฝั่ง ยากต่อการพัฒนาความเจริญ ระดับคุณภาพชีวิตลดลง เพิ่มระยะเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ส่งผลทำให้เศรษฐกิจค้าขายภายในชุมชนตกต่ำ รวมทั้งยังทำให้เส้นทางคมนาคมในเขตชุมชนหลายจุดเปลี่ยนแปลงจากเดิม พื้นผิวจราจรคับแคบ และจุดสะพานกลับรถที่อยู่ระยะไกล ทำให้การติดต่อสัมพันธ์ระหว่างผู้คนสองฝั่งทางรถไฟเป็นไปด้วยความยากลำบาก
ทั้งนี้ในชุมชนบ้านกุดจิกมีโรงเรียนระดับประถม มัธยม ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก รวม 4 แห่ง คือ โรงเรียนบ้านกุดจิก (รัชชุศิริอนุกูล) โรงเรียนกุดจิกวิทยา โรงเรียนบ้านสลักใด และศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลกุดจิก ที่ตั้งอยู่ทั้งสองฝั่งทางรถไฟ การก่อสร้างรูปแบบดังกล่าวแยกชุมชนออกเป็น 2 ฝั่ง ซึ่งส่งผลกระทบด้านการศึกษา เช่น ผู้ปกครอง และเด็กนักเรียนที่เดินทางสัญจร ส่งบุตรหลานไปโรงเรียน ส่วนใหญ่จะเป็นเด็ก สตรี และผู้สูงอายุ ทำให้ได้รับความลำบากในการเดินทาง
น.ส.จันทินา กล่าวอีกว่า ปัญหาดังกล่าวนี้เกิดจากการทำประชาพิจารณ์ที่ไม่โปร่งใส หน่วยงานรัฐไม่ได้เผยแผ่ข้อมูลข่าวสารของโครงการให้กับประชาชนทราบเท่าที่ควร และชาวบ้านทั้งหมดไม่เคยได้มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น ประชุมหารือ รวมถึงการทำประชาพิจารณ์ อีกทั้งรฟท. ไม่เคยแจ้งถึงรูปแบบของการก่อสร้าง สำรวจความคิดเห็น หรือรับฟังความเห็นของประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง
ด้านนายวัธวุฒิ คลาดสูงเงิน นายก อบต.กุดจิก หนึ่งในแกนนำ กล่าวว่า พวกเราได้รวบรวมรายชื่อชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ ที่เกิดจากการก่อสร้างทางรถไฟความเร็วสูง และยื่นหนังสือไปหลายหน่วยงาน สิ่งที่เกิดขึ้นกับชาวบ้านตอนนี้คือ ปัญหาเรื่องของฝุ่นละอองจากการก่อสร้าง และที่สำคัญคือคันดินใหญ่ที่สูงจากพื้นที่ถนนขึ้นไปราว 5 เมตร ทำให้เกิดน้ำท่วมใหญ่
จึงมีข้อเรียกร้อง ดังนี้ 1. ขอให้รฟท.ระงับการดำเนินการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง สัญญาที่ 3-4 ช่วงกุดจิก-โคกกรวด เป็นระยะทาง 9.5 กิโลเมตร และขอคืนพื้นที่ถนนเดิมให้แก่ประชาชน 2. ขอให้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงช่วงดังกล่าว จากระดับดินเป็นยกเสาสูง (ตอม่อ) เท่านั้น หากหน่วยงานภาครัฐยังนิ่งเฉยเราจะมีการยกระดับการเรียกร้องต่อไป