นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก และโฆษกกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยว่า หลังจากกระทรวงคมนาคมได้มีประกาศปรับอัตราค่าโดยสารรถแท็กซี่ในเขตกรุงเทพมหานครนั้น ล่าสุดกรมการขนส่งทางบกได้ร่วมมือกับ 4 บริษัทเอกชน ได้แก่ บริษัท เพาเวอร์เมติค จำกัด (ยี่ห้อ Printax, ROYAL), บริษัท ซันไทมิเตอร์ จำกัด (ยี่ห้อมิเตอร์ 3TM), บริษัท จีพีเอสไทยสตาร์ จำกัด (ยี่ห้อ G-TAX) และบริษัท ทีเอชที โปรเกรส จำกัด (ยี่ห้อ PROFITTO) ในการอำนวยความสะดวกสำหรับผู้ขับรถแท็กซี่ในการปรับจูนมิเตอร์ตามอัตราค่าโดยสารใหม่ ที่สถานีกลางบางซื่อ
สำหรับภาพรวมในการนำมิเตอร์มาปรับจูนตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม – 28 กุมภาพันธ์ 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 46,958 คัน โดยมียอดปรับจูนมิเตอร์แต่ละยี่ห้อ มีดังนี้
1. 3TM จำนวนทั้งสิ้น 21,508 คัน
2. PRINTAX จำนวนทั้งสิ้น 7,275 คัน
3. G-TAX จำนวนทั้งสิ้น 4,651 คัน
4. PROFITTO จำนวนทั้งสิ้น 3,196 คัน
5. ESFAME จำนวนทั้งสิ้น 2,388 คัน
6. ROYAL จำนวนทั้งสิ้น 6,805 คัน
7. NCM จำนวนทั้งสิ้น 248 คัน
8. UCAST จำนวนทั้งสิ้น 887 คัน
ส่วนมิเตอร์ยี่ห้อ apollo ที่ไม่สามารถปรับจูนมิเตอร์ได้ เนื่องจากบริษัทปิดตัวลงและไม่สามารถติดต่อผู้แทนบริษัทได้ กรมการขนส่งทางบกไม่ได้นิ่งนอนใจในปัญหาความเดือดร้อนของผู้ขับรถแท็กซี่ที่ใช้มิเตอร์ยี่ห้อดังกล่าว ได้ประสานไปยังสถาบันการศึกษา ซึ่งมีบุคลากรที่มีความรู้ และความเชี่ยวชาญด้านเครื่องกล คอมพิวเตอร์ และอิเล็กทรอนิกส์ มาช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าว ทั้งนี้ ผู้ขับรถแท็กซี่ที่ใช้มิเตอร์ยี่ห้อ apollo ยังสามารถใช้มิเตอร์ดังกล่าวได้ต่อไปโดยใช้อัตราค่าโดยสารเดิม
ทั้งนี้ผู้ขับแท็กซี่ที่ยังไม่ได้ปรับจูนมิเตอร์ สามารถนำมิเตอร์พร้อมสำเนาคู่มือจดทะเบียนรถไปปรับจูนได้ที่บริษัทที่จำหน่ายมิเตอร์ตามแต่ละยี่ห้อหรือกรณีแท็กซี่ของสหกรณ์หรือกลุ่มนิติบุคคลที่มีรถจำนวนมากสามารถรวมมิเตอร์ไปดำเนินการกับบริษัทที่ปรับจูนมิเตอร์ และนำมิเตอร์ที่ปรับจูนแล้วมาขอรับรองความถูกต้องที่สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 5 ส่วนตรวจสภาพรถ งานตรวจสภาพรถรับจ้างและรถอื่น อาคาร 4 เจ้าหน้าที่จากกรมการขนส่งทางบกจะตรวจสอบมิเตอร์ หากการปรับจูนมิเตอร์ถูกต้องตามประกาศของกระทรวงคมนาคม จะทำการซีลตะกั่วที่ตัวมิเตอร์เพื่อรับรองความถูกต้อง