นางวิมินตรา ราช ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอ็นเอฟคิว (ประเทศไทย) จำกัดเปิดเผยว่า ปัจจุบันพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด อุตสาหกรรมหรือธุรกิจต่างนำเทคโนโลยี นวัตกรรมที่ทันสมัยเข้ามาใช้มากขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการซึ่งธุรกิจจึงต้องปรับตัวให้ตอบโจทย์กับความต้องการของผู้บริโภค เอ็นเอฟคิวเป็นบริษัทฮาวส์พัฒนาซอฟต์แวร์และดิจิทัลไลเซชั่นที่เข้าถึงระดับโลกมุ่งเน้นการพัฒนานวัตกรรมและความพึงพอใจที่ทันสมัย
และเหมาะสมสําหรับลูกค้าในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น ธุรกิจบริการ อย่างโรงแรม ร้านอาหาร โรงพยาบาล ที่ต้องการพัฒนาระบบการจองคิว หรือจองการเข้ามาใช้บริการ โดยบริษัทได้เข้ามาทำการตลาดในไทยตั้งแต่ปี2019 ซึ่งเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่บริษัทแม่ที่เยอรมนีต้องการมาเจาะตลาดในภูมิภาคเชีย โดยพบว่าตลาดไทยเป็นตลาดที่น่าสนใจและคนไทยเก่งด้านระบบไอทีมากแต่ยังมีจุดอ่อนในเรื่องภาษา
“บริษัทมองว่าตลาดซอฟต์แวร์ของไทยยังมีโอกาสให้เข้าไปเจาะเพราะธุรกิจหลายที่ยังมีความต้องการที่จะพัฒนาระบบหลังบ้านให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น กลุ่มเป้าหมายของบริษัทยังคงเป็นกลุ่มลูกค้าด้านบริการ โดยตั้งเป้ายอดรายได้โต10%จากปีก่อน โดยปัจจุบันบริษัทมีสาขาอยู่5สาขา คือเยอรมนี อียิปต์ ลิทอเนีย เวียดนามและ ไทย ”
ทั้งนี้ตลาดซอฟต์แวร์ในประเทศไทยเติบโต 20.1% ในปี 2565 ซึ่งไทยต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงเพื่อให้ได้มาซึ่งส่วนแบ่งการตลาดในการตอบสนองต่อความต่องการของธุรกิจ ซึ่งอาชีพที่มาแรงในปี2566 นักพัฒนาซอฟต์แวร์ นักเขียนโค้ดถือถือเป็นอาชีพมาแรงทางด้านไอทีอีกอาชีพหนึ่ง เพราะเมื่อธุรกิจต่างหันมาใช้แพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้นและเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวัน การออกแบบหน้าแอปพลิเคชันเพื่อให้ผู้ที่ใช้งานสามารถใช้งานได้สะดวก หรือเกิดความประทับใจต่อแอปพลิเคชันนั้นๆ จึงเป็นอาชีพซึ่งเป็นที่เป็นที่ต้องการของตลาดดังนั้นคนที่จะทำงานไอทีจึงเป็นอาชีพที่ยังเป็นที่ต้องการของตลาด