“วิกรม กรมดิษฐ์” ประกาศยกทรัพย์สิน 2 หมื่นล้านให้สังคม

17 มี.ค. 2566 | 09:41 น.
อัปเดตล่าสุด :18 มี.ค. 2566 | 04:04 น.

“วิกรม กรมดิษฐ์” แห่ง อมตะ คอร์ปอเรชัน ประกาศทำพินัยกรรม ยกทรัพย์สินส่วนตัวให้กับมูลนิธิอมตะกว่า 2 หมื่นล้าน ให้สังคมพร้อมถอยบทบาทซีอีโอ เป็นที่ปรึกษา

นายวิกรม กรมดิษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานกรรมการ บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA และประธาน มูลนิธิอมตะ เปิดเผยว่า ได้ทำพินัยกรรมมอบทรัพย์สินส่วนตัวให้กับมูลนิธิอมตะมูลค่ากว่า 95% ของทรัพย์สินทั้งหมดที่มีอยู่ มูลค่าประมาณ 2 หมื่นล้านบาท ทั้งที่ดิน อาคาร คอนโดมิเนียม หุ้นในตลาดหลักทรัพย์ รวมทั้งทรัพย์สินส่วนตัวอื่น ๆ 

ทั้งนี้เพื่อให้เป็นสาธารณประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ของการก่อตั้งมูลนิธิอมตะ นำไปสู่หนึ่งในกลไกการยกระดับคุณภาพสังคม สิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจไทย ในโอกาสครบรอบวันคล้ายวันเกิดปีที่ 70 ซึ่งถือเป็นวาระสำคัญของการวางแผนชีวิตเพื่อส่งต่อความมั่นคงต่อการดำเนินงานของมูลนิธิอมตะอย่างไม่สิ้นสุด 

นายวิกรม กล่าวว่า การทำพินัยกรรมมอบทรัพย์สินในครั้งนี้ นับเป็นความตั้งใจ หลังจากที่ได้เรียนรู้ ฝึกฝนชีวิตกับวิกฤติต่าง ๆ จนขับเคลื่อนให้ธุรกิจกลุ่มอมตะประสบความสำเร็จในการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมให้เป็นเมืองนวัตกรรมเทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน ด้วยแนวคิดที่เห็นว่า เราเกิดมาจากศูนย์และจากไปเป็นศูนย์ ระหว่างศูนย์เราควรสร้างสรรค์สิ่งที่มีประโยชน์และคุณค่าฝากไว้ให้กับสังคมในระยะยาวตลอดไป

อย่างไรก็ตามในส่วนของแผนธุรกิจนั้น ยอมรับว่า จากนี้จะถอยจากบทบาทซีอีโอ ในอมตะฯ เพื่อไปเป็นที่ปรึกษา ซึ่งจะทำหน้าที่คอยให้คำปรึกษา แนะนำ พร้อมทั้งดูนโยบาย ส่วนด้านงานบริหารทั้งหมดโครงสร้างองค์กรนับจากนี้ จะต้องมีตระกูลกรมดิษฐ์นั่งระดับบริหารไม่เกิน 3 คนเท่านั้น และควรผลักดันให้ไปดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการในบอร์ด กำหนดเป้าหมาย ดูนโยบาย และจะเปิดทางให้บุคคลภายนอกเข้ามาเป็นซีอีโอ ต่อไป

ประวัติ "วิกรม กรมดิษฐ์"

ปี พ.ศ. 2496 วิกรม กรมดิษฐ์ เกิดวันอังคารที่ 17 มีนาคม 2496 จ.กาญจนบุรี เป็นบุตรชายคนโตของตระกูล มีน้องมารดาเดียวกันและต่างมารดารวม 21 คนจบการศึกษาปริญญาตรีด้านวิศวกรรมศาสตร์เครื่องกลจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวัน มีความสนใจการค้าตั้งแต่ยังเล็ก โดยรับช่วงต่อในกิจการร้านถั่วคั่วจากป้าขณะเรียนหนังสือชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

ปี พ.ศ. 2518 เมื่อเรียนจบได้กลับมาเปิดบริษัท วี แอนด์ เค คอร์ปอเรชั่น จำกัด เป็นธุรกิจนำเข้าส่งออก ต่อมาหันมาบุกเบิกธุรกิจด้านการพัฒนานิคมอุตสาหกรรม 2 แห่งในประเทศไทยและอีก 1 แห่งในประเทศเวียดนาม มีโรงงานกว่า 1300โรง มียอดการผลิตที่อยู่ในนิคมอุตสาหกรรมทั้งสองประเทศมูลค่าการผลิตกว่า 30,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และมีประชากรที่ทำงานในนิคมทั้งหมดกว่า 3 แสนคน

ปี พ.ศ. 2547 วิกรม กรมดิษฐ์ ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายในต่างจังหวัด โดยมุ่งมั่นถ่ายทอดประสบการณ์และแนวคิดผ่านการเขียนหนังสือมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ผลงานเล่มแรกแนวอัตชีวประวัติ “ผมจะเป็นคนดี : ไฟฝันวันเยาว์” ออกสู่สาธารณชนในปี พ.ศ. 2547 และยังคงเป็นหนังสือที่ติดอันดับขายดีอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันได้ถูกแปลเป็นภาษาต่างๆ อาทิเช่น อังกฤษ เวียดนาม จีน พม่า รัสเซีย ญี่ปุ่น มองโกเลีย เยอรมัน และมาเลย์

ปี พ.ศ. 2549 - 2552 ได้รับการจัดอันดับจากนิตยสาร Forbes ให้ติดอันดับ 40 มหาเศรษฐีในเมืองไทย ได้รับรางวัล fDi Personality of the Year 2008-Asia จาก Foreign Direct Investment magazine (fDi) ในเครือของFinancial Times Group จากลอนดอน และรางวัลมหาเศรษฐีใจบุญแห่งเอเชีย (48 Asian Philanthropist)

ปี พ.ศ. 2554 วิกรมตั้งใจแบ่งเวลาในแต่ละปีเดินทางเก็บเกี่ยวประสบการณ์ชีวิตหลังวางมือจากธุรกิจ ด้วยรถบ้าน (Motor Home) โดยเริ่มต้นในปี 2554 เป็นปีแรกด้วย GMS CARAVAN 2011 ไปยังประเทศลาว-เวียดนาม และจีนตอนใต้ ระยะเวลา 77 วัน

ปี พ.ศ. 2555 เดินทางไปยังประเทศกัมพูชา-เวียดนาม-จีน-มองโกเลีย ระยะเวลา 6 เดือน 13 วัน

ปี พ.ศ. 2556 เดินทางไปยังประเทศลาว-จีน-รัสเซีย-คาซัคสถาน-พม่า ระยะเวลา 7 เดือน คาราวานได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน และสภาธุรกิจไทยจีน ร่วมกันจัดงานสัมมนาตามเมืองต่างๆ ที่คาราวานเดินทางผ่านในฐานะฑูตสัมพันธไมตรีระหว่างประเทศ เพื่อประชาสัมพันธ์ประเทศไทยในด้านการท่องเที่ยว การลงทุน และการส่งเสริมการส่งออก ตลอดจนแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างประเทศในระดับประชาชน

ปัจจุบัน ดำรงตำแหน่งประธานบริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) และประธานมูลนิธิอมตะ ตลอดจนเขียนหนังสือเพื่อถ่ายทอดประสบการณ์ชีวิตให้ประโยชน์แก่อนุชนรุ่นหลัง นอกจากนี้ยังจัดรายการวิทยุ FM 96.5 MHz CEO Vision และเขียนคอลัมน์ในหนังสือพิมพ์

ที่มา : มูลนิธิอมะตะ