นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา นายกสมาคมการค้าอาหารอนาคตไทย เปิดเผยว่าประเทศไทยตั้งเป้าจะเป็นผู้นำด้านอาหารแห่งอนาคตของโลก เพื่อช่วยยกระดับอุตสาหกรรมและการส่งออก แต่ว่าการจะเป็นผู้นำอุตสาหกรรมนี้ในระดับโลก ต้องเกิดภาคการบริโภคในประเทศที่เข้มแข็งไปพร้อมกันด้วย จึงเป็นที่มาของการริเริ่มแคมเปญ “เว้นเดย์ วัน Wednesday” เพื่อชักชวนให้คนไทยและผู้ประกอบการด้านอาหาร โรงอาหาร โรงเรียน โรงแรม โรงพยาบาล มาร่วมกันเสริฟอาหารอนาคตในทุกๆวันพุธของทุกสัปดาห์
“ในต่างประเทศมีแคมเปญอย่าง Meatless Monday ที่ชวนผู้บริโภคหันมาลดเนื้อสัตว์ในทุกๆวันจันทร์ ในประเทศไทยเราก็มีวันสีต่างๆ อย่างวันพุธสีเขียว
ที่เป็นสีของสุขภาพ ความสดใส สิ่งแวดล้อมที่ดี และเราเล่นคำว่า เว้น ที่แปลว่า ละ งด กับคำว่า Wednesday วันพุธ ที่เป็นวันกลางสัปดาห์ เพื่อให้ผู้ประกอบการด้านอาหารมีเวลาเตรียมตัวในวันกลางสัปดาห์และสำหรับผู้บริโภคให้หันมาลองอาหารอนาคตในรูปแบบที่หลากหลาย อร่อย สะดวก เหมาะแก่ชีวิตประจำวัน”
ทั้งนี้ไทยสามารถเว้นอะไรได้บ้างมาเป็นอาหารแห่งอนาคต เริ่มต้นที่ เว้นสัตว์ใหญ่ มาทานเนื้อทางเลือกจากพืช (plant-based) จากเห็ด จากการเพาะเลี้ยง หรือจากแมลง เว้นสารเคมี มาทานอาหารแบบออแกนิค (อินทรีย์) เว้นการกินยา มาทานอาหารฟังก์ชั่นที่มีสรรพคุณส่งเสริมระบบการทำงานและอวัยวะต่างๆและเว้นการนอนโรงพยาบาล สำหรับผู้ป่วยที่ต้องการอาหารพิเศษด้วยอาหารทางการแพทย์แต่อยากรับประทานที่บ้านได้
ทั้งนี้ประเทศไทย มีบริษัทและสตาร์ทอัพ ที่มีความเชี่ยวชาญ คิดค้นและพัฒนา อาหารอนาคตทั้ง 4 กลุ่ม เพื่อตอบสนองความต้องการผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ ทั้งนี้กลุ่มอาหารทั้ง 4 กลุ่มมีอัตราการเติบโตสูงด้วยปัจจัยของเทรนด์อาหารโลกที่เปลี่ยนแปลงไปในด้านสุขภาพ และด้านสิ่งแวดล้อม
โดยเฉพาะเรื่อง Climate Change19 แบรนด์อาหารแห่งอนาคตที่เข้าร่วมเปิดตัว มี Meat Avatar, VG4Love, Let’s Plant Meat, Mantra, More Meat, Lamai, Velimeat, Absolute Plant, Mon Amour, Bounce, Meble Snack, Meatly, alt. Eatery, OMG Meat, SMS, Never Meat, Eggyday, V Farm, Mudjai.
โดยสมาคมได้มีการจัดแคมเปญ เว้นเดย์ วัน Wednesday จึงเป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมอาหารอนาคตของไทยให้มีการเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของสมาคมการค้าอาหารอนาคตไทย ที่ต้องการ ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอาหารอนาคตไทยให้เป็นอาหารที่มีความปลอดภัย มีความมั่นคงทางอาหาร และเติบโตอย่างยั่งยืนตามหลักเศรษฐกิจแบบองค์รวม