มีการคาดการณ์กันว่า เทศกาลสงกรานต์ ปีนี้(2566) จะกลับมาคึกคัก มีนักท่องเที่ยวในประเทศ และต่างประเทศเดินทาง สร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนให้กับพื้นที่ ซึ่งเป็น โอกาสทองของการทำแคมเปญดึงนักท่องเที่ยวเข้าไทย หลัง งดทำกิจกรรม ดังกล่าว มาไม่ต่ำกว่า3ปี ทั้งนี้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)และรัฐบาล คาดการณ์ว่า จะมีเม็ดเงินสะพัดสูงกว่าช่วงก่อนเกิดสถานการณ์โควิดหรือปี2562
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม วางแนวทางการทำงานส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2566 สั่งการให้เตรียมความพร้อมจัดงานเพื่อเฉลิมฉลองสงกรานต์แบบยิ่งใหญ่ ซึ่งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์ว่าการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศจะเติบโตมากขึ้น
โดยวางแผน"วิจิตรสงกรานต์ 5 ภาค" พร้อมประชาสัมพันธ์โครงการ “365 วัน มหัศจรรย์เมืองไทยเที่ยวได้ทุกวัน” กระตุ้นตลาดการท่องเที่ยวภายในประเทศ ทั้งนี้ จากการคาดการณ์แนวโน้มการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2566 ททท. คาดว่าจะคึกคักมากกว่า ปี 2562 ช่วงสงกรานต์ก่อนสถานการณ์โควิด -19
เนื่องจากการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมคาดการณ์ว่า การเดินทางท่องเที่ยวของคนไทยในช่วงวันหยุดยาวสงกรานต์ จะสนับสนุนให้เกิดการเดินทางในประเทศทั้งเดือนเมษายน ปี 2566 อยู่ที่ 17-20 ล้านคน/ครั้ง
ประกอบกับปัจจัยสนับสนุนที่ในเดือนดังกล่าว มีโครงการจากรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น โครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5 การจัดงานเฉลิมฉลองสงกรานต์แบบยิ่งใหญ่ วิจิตรสงกรานต์ 5 ภาค และโครงการ “365 วัน มหัศจรรย์เมืองไทยเที่ยวได้ทุกวัน” ภายใต้แนวคิด “เที่ยวได้ทุกวันมหัศจรรย์ทั้งปี” ระยะเวลาโครงการตั้งแต่เดือน มกราคม – กันยายน 2566 ซึ่งประกอบด้วยแคมเปญ ดังต่อไปนี้
นายอนุชาระบุว่า นายกรัฐมนตรี วางแนวทางการทำงานเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ โครงการเราเที่ยวด้วยกัน ที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง จึงเชื่อมั่นว่ามาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวของรัฐบาลจะกระตุ้นให้ภาคการท่องเที่ยวของไทยเติบโต โดยเฉพาะเทศกาลสงกรานต์ในเดือนเมษายน ที่คาดการณ์ว่านักท่องเที่ยวจะเพิ่มมากขึ้น สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจสู่ประเทศได้อย่างมาก
"รัฐบาลพร้อมจัดกิจกรรมสนับสนุนการท่องเที่ยวในหลายรูปแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรูปแบบที่ตอบโจทย์ ตรงตามความต้องการของนักท่องเที่ยว และสอดคล้องกับเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของไทย”