กนอ.ถก 3 ฝ่ายโครงการท่องส่งน้ำ EEC หวั่นกระทบผู้ใช้ภาคตะวันออก

05 เม.ย. 2566 | 04:39 น.
อัปเดตล่าสุด :05 เม.ย. 2566 | 04:39 น.

กนอ.ถก 3 ฝ่ายโครงการท่องส่งน้ำ EEC หวั่นกระทบผู้ใช้ภาคตะวันออก ยันทุกฝ่ายพร้อมป้องภาคอุตสาหกรรมไร้ผลกระทบ ลั่นการดำเนินการยังเป็นไปตามปกติ พร้อมรวมข้อคิดเห็น และข้อสรุปให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทราบต่อไป

นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกันระหว่างกรมธนารักษ์ บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ อีสท์ วอเตอร์ และบริษัท วงศ์สยามก่อสร้าง จำกัด และนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่ว่า ได้ด้หารือถึงแนวทางการดำเนินการในช่วงเปลี่ยนผ่านคืนสินทรัพย์ของโครงการท่อส่งน้ำหนองปลาไหล-หนองค้อ

และโครงการท่อส่งน้ำหนองค้อ-แหลมฉบัง (ระยะที่ 2) ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 11 เมษายน 2566 นี้ ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขของสัญญา เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ใช้น้ำในนิคมอุตสาหกรรมหลายแห่งในพื้นที่จังหวัดชลบุรี และอำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง

ทั้งนี้ ทุกฝ่ายให้ความสำคัญกับการกำหนดแผนงานส่งมอบระบบสูบจ่ายของทั้ง 2 โครงการดังกล่าว เนื่องจากเป็นสถานีสูบจ่ายน้ำหลักในการสูบจ่ายไปยังพื้นที่ต่างๆตามแนวท่อที่สำคัญ เช่น แนวท่อหนองปลาไหล-มาบตาพุด-สัตหีบ โดยทั้ง 3 ฝ่าย คือ กรมธนารักษ์ บริษัท อีสท์ วอเตอร์ และบริษัท วงศ์สยามฯ ได้หารือร่วมกันเพื่อให้แผนงานส่งมอบทรัพย์สินดังกล่าว มีความชัดเจนและรอบคอบที่สุด

สำหรับการหารือครั้งดังกล่าวนี้เป็นโอกาสให้ทุกฝ่ายซักถามและชี้แจง ทำให้เกิดความชัดเจนและสร้างความสบายใจให้แก่ผู้ใช้น้ำในพื้นที่มากขึ้น ซึ่งในส่วนของบริษัท อีสท์ วอเตอร์ อาจยื่นคำร้องขอความคุ้มครองชั่วคราว เพื่อหารือกับฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับผู้ใช้น้ำ หรือเกิดผลกระทบให้น้อยที่สุด ในกรณีที่บริษัท วงศ์สยามฯ ไม่สามารถเริ่มดำเนินการได้ทันที 

กนอ.ถก 3 ฝ่ายโครงการท่องส่งน้ำ EEC หวั่นกระทบผู้ใช้ภาคตะวันออก

ขณะที่บริษัท วงศ์สยามฯ ได้เตรียมความพร้อมวางระบบสูบจ่ายน้ำคู่ขนานไปด้วยแล้ว โดยประสานกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เพื่อขอใช้ไฟฟ้าชั่วคราวในสถานีสูบน้ำ และสามารถให้บริการสูบน้ำตามปกติ โดยไม่คิดค่าบริการแก่ลูกค้าในช่วงการเปลี่ยนผ่าน และได้หารือกับกรมชลประทานเพื่อขอใบอนุญาตชั่วคราวแล้ว

นายวีริศ กล่าวอีกว่า การประชุมฯ ประกอบด้วย ผู้แทนจากนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ซึ่งได้มีการซักถามเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้น้ำ ทั้งเรื่องสถานการณ์หลังจากวันที่ 11 เมษายน 2566 เรื่องการใช้น้ำ และการใช้ไฟฟ้าบริเวณสถานีสูบน้ำในพื้นที่ทับซ้อน

โดยในที่ประชุมได้ให้คำมั่นว่า การดำเนินการต่างๆ ยังเป็นไปตามปกติ และจะไม่ส่งผลกระทบกับผู้ใช้น้ำ รวมถึงผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่ ซึ่งทั้งบริษัท วงศ์สยามฯ และบริษัท อีสท์ วอเตอร์ จะดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับตนเองอย่างดีที่สุด

“จากการประชุมฯ เห็นได้ว่า ทั้ง 3 ฝ่ายต่างร่วมกันเตรียมการส่งมอบทรัพย์สินอย่างรอบคอบเพื่อป้องกันผลกระทบต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้น จึงทำให้เบาใจได้ในระดับหนึ่งว่า การส่งมอบพื้นที่ครั้งนี้จะดำเนินไปได้อย่างราบรื่น อย่างไรก็ตาม กนอ.จะรวบรวมข้อคิดเห็น และข้อสรุปจากการหารือ ให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องรับทราบต่อไป”