นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 11 เมษายน2566 ผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติการซื้อกิจการ บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) มูลค่ากิจการรวม 5.5 หมื่นล้านบาท ด้วยคะแนนเสียง 99.86% ซึ่งจะมีผลให้การบริหารธุรกิจของบางจากแข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น หลังการควบควมกิจการแล้วเสร็จ ที่คาดว่าดีลทั้งหมดจะจบสิ้นภายในปี 2566
หลังจากนี้บางจากฯ จะดำเนินการซื้อหุ้น 65.99% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของเอสโซ่จากExxonMobil ภายหลังจากได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า(กขค.) ซึ่งจะใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง หลังจากนั้นก็จะดำเนินการทำคำเสนอซื้อหุ้นเอสโซ่ เมื่อซื้อขายเสร็จเรียบร้อย ก็จะทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ รับซื้อจากรายย่อย
ส่วนแผนการดำเนินงานหลังจากนี้ บางจากจะมีโรงกลั่นของเอสโซ่เข้ามาเพิ่ม ซึ่งมีกำลังผลิตน้ำมันเบนซินที่ยังไม่เต็มกำลังผลิต ขณะที่โรงกลั่นบางจากมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 1.23 แสนบาร์เรลต่อวัน ซึ่งสูงกว่ากำลังการผลิตปกติอยู่แล้ว ในขณะที่ปั้มบางจากฯ มีความต้องการน้ำมัน 1.43 แสนบาร์เรลต่อวัน ทำให้ต้องมีการนำเข้าหรือซื้อน้ำมันจากต่างประเทศและโรงกลั่นอื่นบางส่วน การได้โรงกลั่นเอสโซ่จึงเข้ามาเสริมความต้องการได้ โดยบริษัทมีแผนที่ตะเพิ่มกำลังผลิตต่อไป
นอกจากโรงกลั่น บางจากยังได้เข้าบริหารสถานีบริการน้ำมันของเอสโซ่ที่มีอยู่ราว 700-800 ปั้ม ทำให้บางจากมีจำนวนสถานีบริการน้ำมันเพิ่มเป็น 2,105 ปั๊ม มีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มเป็น 7.7% จากเดิม 7.4%
สำหรับแผนการเปลี่ยนโลโก้สถานีบริการ ที่เดมบางจากมีแผนเปลี่ยนโลโก้ใหม่ อยู่แล้วในไตรมาส 2 ก็จะทยอยปรับเปลี่ยนโลโก้ของเอาโซ่ไปด้วย คาดว่าในระยะ 3-6 เดือนหลังจากนี้ จะปรับเปลี่ยนได้ราว 80% ด้วยงบประมาณกว่า 100 ล้านบาท
"แผนการบริหาร เอสโซ่ 240 ปั้มเป็นปั้มของบริษัท ส่วนที่เหลือก็เป็นปั้มดีลเลอร์ ทุกคนก็จะแปลงมาเป็นคู่สัญญากับบริษัท อีทีแอล ใช้โลโก้ ใช้น้ำมันของบางจากทั้งหมด" นายชัยวัฒน์กล่าว
ส่วนของปั้มซัสโก ต้องดำเนินการตามสัญญา ซึ่งขณะนี้บางจากยังไม่ได้เข้าไปยุ่ง เพราะต้องรอดูตัวสัญญาที่เขามีกันอีกครั้ง
นอกจากนี้ บางจากยังได้สิทธิการใช้ท่อส่งน้ำมันแทปไลน์ของเอสโซ่เพิ่ม โดยเอสโซ่จะส่งผ่านแท็ปไลน์จากลำลูกกา ไปสระบุรีได้ ก็จะทำให้บางจากสามารถบรืหารจัดการการส่งน้ำมันได้ดีขึ้น
นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า การลงทุนซื้อกิจการเอสโซ่มูลค่า 5.5 หมื่นล้านบาท จะสามารถคุ้มทุนได้ภายในระยะเวลา 4-5 ปี ซึ่งหากดำเนินการลงทุนสร้างโรงกลั่นใหม่ จะไม่สามารถคืนทุนภายใน 5 ปี