ร้านอาหารยังฟีเวอร์ คนไทยแห่จดทะเบียนธุรกิจ

19 เม.ย. 2566 | 02:47 น.
อัปเดตล่าสุด :19 เม.ย. 2566 | 02:53 น.

ร้านอาหาร-อสังหา-ก่อสร้าง ยังฮอตไตรมาสแรก ยอดจดทะเบียนกว่า 26,182 ราย โตเพิ่ม 17%   เฉพาะเดือนมี.ค.มียอดจดทะเบียนธุรกิจ กว่า 9,179 ราย มูลค่าทุนเฉียด 3 แสนล้าน

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการจดทะเบียนธุรกิจของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเดือนมีนาคม 2566 และไตรมาส 1/2566  ว่าธุรกิจจัดตั้งใหม่เดือนมีนาคม 2566จํานวนธุรกิจจัดตั้งใหม่ มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัทใหม่ทั่วประเทศ ในเดือน มี.ค. 66 จํานวน 9,179 ราย มูลค่าทุนจดทะเบียนจํานวน 299,608.53 ล้านบาท

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
  โดยประเภทธุรกิจจัดต้ังใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จํานวน 752 ราย คิดเป็น 8% ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จํานวน 699 ราย คิดเป็น 7% และธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร จํานวน 440 ราย คิดเป็น 5%

อย่างไรก็ตามตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจต่างๆเช่นดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่อยู่ในช่วงเชื่อมั่นเป็นเดือนที่4ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจที่ปรับเพิ่มขึ้นรวมทั้งอัตราเงินเฟ้อที่ชะลอตัวสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจในประเทศมีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องสอดคล้องกับสถิติการจดทะเบียนราย เดือนและรายไตรมาสที่เพิ่มขึ้น

ร้านอาหารยังฟีเวอร์ คนไทยแห่จดทะเบียนธุรกิจ

จากปัจจัยดังกล่าวคาดว่าการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ในช่วงครึ่งปีแรกของปีอยู่ที่ประมาณ 40,000 - 42,000 ราย และตลอดทั้งปีอยู่ที่ประมาณ 72,000 - 77,000 ราย

ร้านอาหารยังฟีเวอร์ คนไทยแห่จดทะเบียนธุรกิจ

ทั้งนี้หากแบ่งตามช่วงทุน พบว่าธุรกิจจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศมากที่สุด คือ

  • ทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท มีจํานวน 5,943 ราย คิดเป็น 64.75%
  • ทุนมากกว่า 1-5 ล้านบาท จํานวน 3,090 ราย คิดเป็น 33.66%
  • ทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท มีจํานวน 117 ราย คิดเป็น 1.27%
  • ทุนมากกว่า 100 ล้านบาท จํานวน 29 ราย คิดเป็น 0.32%

สำหรับธุรกิจจัดตั้งใหม่ไตรมาสแรกของปีนี้พบว่ามีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนบริษัทจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศ จํานวน 26,182 ราย เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2565 จํานวน 22,347 ราย เพิ่มขึ้นจํานวน 3,835 ราย คิดเป็น 17%  โดยธุรกิจตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ยังคงเป็นธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จํานวน 2,118 ราย ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จํานวน 1,916 ราย คิและธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร จํานวน 1,228 ราย ส่วนมูลค่าทุนธุรกิจจัดตั้งใหม่ มีจํานวนทั้งสิ้น 339,595.43 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2565 จํานวน 74,397.53 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจํานวน 265,197.90.36 ล้านบาท คิดเป็น 356 เท่า

ขณะที่ธุรกิจเลิกประกอบกิจการ พบว่า มีจํานวน 1,102 ราย โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียนจํานวน 22,684.96 ล้านบาท ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มการเลิกกิจการในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จํานวน 122 ราย ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จํานวน 58 ราย และธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร จํานวน 29 ราย ส่งผลให้ไตรมาสแรกมีผู้ปะกอบการขอเลิกกิจการจํานวน 3,268 ราย