"โคล้านครอบครัว"คืออะไร ช่วยเกษตรได้ยังไง กลุ่มไหนมีสิทธิ์เช็คเลย

19 เม.ย. 2566 | 13:36 น.
อัปเดตล่าสุด :19 เม.ย. 2566 | 13:36 น.

"โคล้านครอบครัว"คืออะไร ช่วยเกษตรได้ยังไง กลุ่มไหนมีสิทธิ์เช็คเลยที่นี่มีคำตอบ อนุชา นาคาศัยยันไม่ใช่โครงการแจกเงิน แต่แจกเครื่องมือทำเงิน ด้านรศ.ดร.ธนวรรธน์ชี้เป็นอาชีพเสริมที่เพิ่มรายได้

โคล้านครอบครัวคืออะไร ช่วยเกษตรได้ยังไง เป็นคำถามที่ได้รับความสนใจ เพราะมีความเกี่ยวข้องกับประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศไทย

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบของ "ฐานเศรษฐกิจ" เพื่อไขข้อสงสัยเกี่ยวกับโคล้านครอบครัวพบว่า

"โคล้านครอบครัว" เป็นโครงการที่ถูกจัดทำขึ้นโดยรัฐบาล ซึ่งมุ่งหวังจะเป็นหนทางให้เกษตรกรหลุดพ้นจากความยากจน

นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรัฐมนตรีกำกับดูแลสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.)ระบุว่า รัฐบาลจะสนับสนุนให้สมาชิกกองทุนสามารถกู้ยืมเงินตั้งต้นซื้อโคครอบครัวละ 50,000 บาท แบบปลอดดอกเบี้ย 

เมื่อครบปีที่ 3 คืนครึ่งหนึ่งของเงินที่กู้ยืมไป ส่วนปีที่ 4 คืนเต็มจำนวน 

อนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ดี เน้นย้ำว่าไม่ใช่โครงการแจกเงิน แต่เป็นโครงการแจกเครื่องมือทำเงิน เพราะโคเป็นสัตว์เลี้ยงง่าย ไม่จำกัดฤดู และสามารถออกลูกออกหลานให้เกษตรกรสามารถขายลูกโคเพื่อทำเงินได้ตลอดเป็น 10 ปี แค่เริ่มจากโค 2 ตัว และจะเพิ่มเป็นเท่าทวีคูณ รับรองถ้าเลี้ยงดีๆ ใส่ใจดูแลภายใน 3 ปีคืนทุนได้และมีกำไรหลักแสน

รศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า การเลี้ยงโคพิสูจน์ได้ว่าเป็นอาชีพเสริมที่เพิ่มรายได้ให้เกษตรกร หากมีการส่งเสริมการเลี้ยงโคที่ถูกวิธี จะสามารถเพิ่มจำนวนโคในปีถัดไป รวมถึงสร้างโอกาสให้สามารถทำไร่นาสวนผสมและเลี้ยงปศุสัตว์ควบคู่กันไปได้ 

ขณะที่ในส่วนของตลาดต่างประเทศและในประเทศนั้น จากสถิติของกระทรวงเกษตรฯ มีการเลี้ยงโคเนื้อมากขึ้น ประกอบด้วย

  • ปี 2563 มีการเลี้ยงโคถึง 6 ล้านตัว
  • ปี 2564 จำนวน 7 ล้านตัว 
  • ปี 2565 จำนวน 9 ล้านตัว

ซึ่งถือว่าเติบโตมากขึ้นกว่า 10% โดยที่เนื้อโคของไทยมีการบริโภคถึง 1.2-1.3 ล้านตัวต่อปี โดยตลาดเนื้อแบ่งเป็น 2 ประเภท คือตลาดเนื้อต่างประเทศและตลาดเนื้อในประเทศ และจะถูกแยกเป็นตลาดเนื้อคุณภาพดีและตลาดเนื้อคุณภาพปกติ  

รศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ด้านธุรกิจร้านอาหารที่มีการบริโภคเนื้อมีหลายระดับ ตั้งแต่เนื้อเกรดพรีเมี่ยมจนถึงเกรดปกติ สังเกตได้จากร้านชาบู ปิ้งย่างที่มีราคาเนื้อต่างกัน และปัจจุบันคนไทยบริโภคเนื้อจากต่างประเทศมากขึ้นแต่ประเทศไทยส่งออกน้อย แสดงให้เห็นว่าตลาดในประเทศยังมีความต้องการอยู่ แนวโน้มบริโภคเนื้อยังคงมีสูง 

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันตลาดโคเนื้อคุณภาพปกติก็มีตลาดรองรับ และถ้าเกษตรกรมีการเลี้ยงโคและเริ่มเข้าใจการเลี้ยงมากขึ้น จนสามารถเลี้ยงโคคุณภาพสูงขึ้นได้ จนทำให้มีเทคนิคการถ่ายทอด เทคนิคการฝึกให้เลี้ยงโคที่มีคุณภาพก็จะสามารถเข้าสู่ตลาดที่พรีเมียม ขายได้ราคามากขึ้น 

รศ.ดร.รังสรรค์ พาลพ่าย อาจารย์ประจำสาขาวิชาเทคโนโลยีชีวภาพสำนักวิชาเทคโนโลยีการเกษตรมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี กล่าวว่า การเลี้ยงโคต้องมีการคัดเลือกพันธุ์และมีกระบวนการเลี้ยงที่ประณีต อาจจะต้องมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพื่อตรวจสอบข้อมูลต่าง ๆ สามารถสรุปและติดตามข้อมูลได้ตลอดเวลา และเพิ่มข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เช่น วิธีการดูแล การทำอาหารเบื้องต้น การปรับปรุงพันธุ์ เป็นต้น ซึ่งจะช่วยให้การเลี้ยงโคมีคุณภาพมากขึ้น

นายเกียรติศักดิ์ ทองสุระวิโรจน์ รักษาการผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนากองทุนหมู่บ้านและเสริมสร้างศักยภาพชุมชน กล่าวว่า กองทุนฯ จะสร้างรายได้ สร้างอาชีพที่เลี้ยงครอบครัวได้จริง และเชื่อมั่นว่าจะสามารถต่อยอดอาชีพไปได้อีก โดยไม่จำเป็นต้องเลี้ยงโคอย่างเดียว แต่จะก่อให้เกิดอาชีพต่างๆ ได้ในอนาคต 

ต้องการให้คนในชุมชนผ่านการฝึกอบรมความรู้เรื่องปศุสัตว์และนำความรู้กลับมาพัฒนาชุมชน เป็นการสร้างชุมชนที่แข็งแรงผ่านการเลี้ยงโค และเป็นจุดเริ่มต้นเพิ่มความมั่งคั่งให้กับชุมชน การเลี้ยงโคเพียงแค่หนึ่งอาชีพ แต่ทำให้เกิดหลากหลายอาชีพ ตามที่คาดหวังไว้