นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ (จร.) กระทรวงพาณิชย์ เพื่ออัพเดตความก้าวหน้าสถานะการเจรจา FTA ใหม่ ๆ ของไทย เปิดเผยว่าวาระเร่งด่วนในเรื่อง FTA กรมฯอยู่ระหว่างมอบสถาบันวิจัยจากภายนอกศึกษาเรื่องประโยชน์ และผลกระทบการจัดทำ FTA กับคู่ค้าใหม่ ๆ เช่น อิสราเอล ภูฏาน กลุ่มพันธมิตรแปซิฟิก (เปรู ชิลี เม็กซิโก โคลัมเบีย) และเกาหลีใต้
ซึ่งรวมถึงการรับฟังความเห็นผู้มีส่วนได้เสีย โดยจะดำเนินการให้แล้วเสร็จ และนำเสนอขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาเปิดเจรจา FTA กับประเทศใหม่ ๆ ข้างต้นภายในปี 2566 รวมถึงการเจรจาทบทวนความตกลง FTA ที่มีความตกลงไปแล้ว
ส่วน FTA ที่มีผลบังคับใช้แล้วก่อนหน้านี้ และอยู่ระหว่างการทบทวนความตกลง ณ ปัจจุบันมี 5 กรอบความตกลง ได้แก่ 1.อาเซียน-ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ ตั้งเป้าจบในปีนี้ 2.อาเซียน-จีน เป้าหมายจบปี 2567 3. ความตกลงการค้าสินค้าของอาเซียน เป้าหมายจบ ปี 2568 4.อาเซียน-อินเดีย อยู่ระหว่างหารือแผนการเจรจา และ 5.อาเซียน-เกาหลีใต้ อยู่ระหว่างศึกษา เพื่อเตรียมเปิดทบทวน
ทั้งนี้กรมฯ ได้ตั้งเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนการค้าไทยกับประเทศคู่สัญญา FTA ทั้งเก่าและใหม่ เป็น 80-85% ในปี 2570 ของการค้ารวมที่ไทยค้ากับโลก จากปัจจุบัน FTA ที่ไทยมี 14 ฉบับกับ 18 ประเทศคิดเป็นสัดส่วน 60.9% ที่ไทยค้ากับทั่วโลกในปี 2565
ขณะเดียวกันยัง FTA ที่กรมฯมีแผนจะทำในอนาคต ซึ่งจะมีส่วนสำคัญในการผลักดันเป้าหมายการเพิ่มสัดส่วนการค้าดังกล่าวให้ได้ตามเป้าหมาย เช่น FTA ไทย-สหราชอาณาจักร(UK) ไทย-กลุ่มพันธมิตรแปซิฟิก(ชิลี เปรู เม็กซิโก โคลัมเบีย) FTAไทย-กลุ่ม GCC (ซาอุดีอาระเบีย บาห์เรน โอมาน กาตาร์ คูเวต) ไทย-อิสราเอล ไทย-ภูฎาน ไทย-กลุ่มประเทศแอฟริกาใต้(SACU) และไทย-เกาหลีใต้ เป็นต้น