นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ รองประธานกรรมการหอการค้าไทยกล่าวว่า สิ่งที่ยังกังวลใจของภาคเอกชน คือ ปัจจัยผลกระทบของเดิม เช่น พลังงานสูง ค่าเงินบาทแข็งค่าและอีกหลายส่วนยังอยู่และคาดเดาลำบาก แต่สิ่งที่มาใหม่ เพื่อจะมีรัฐบาลใหม่ และเตรียมเดินหน้าปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำทันที 450 บาทจะเป็นผลกระทบต่อภาคการค้าและอุคสาหกรรมรุนแรงมาก ดังนั้น ภาคเอกชนขอให้พรรคการเมืองที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล
ต้องพิจารณาการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำบนพื้นฐานของกฎหมายและพิจารณารอบด้านก่อนใช้นโยบายนี้ เพราะภาคเอกชนเดิมและเอกชนใหม่ที่จะเข้ามาลงทุนในไทยจะได้รับผลกระทบและไม่กล้าเข้ามาลงทุนในไทยแน่นอน รวมทั้งยังจะกระทบต่อภาคการเกษตรที่ต้องจ่ายค่าแรงเพิ่มแต่ขายสินค้าเกษตรเท่าเดิมหรือน้อยลงได้ จึงอยากเสนอแนะว่าจะต้องพิจารณาทุกให้รอบด้านก่อน
“การขึ้นค่าแรงของนโยบายพรรคการเมืองมันไม่ได้ขึ้นง่ายๆ เพราะไทยมีไตรมาภาคีกลาง และมีไตรภาคีหจังวัดอีก ดังนั้นการจะปรับขึ้นค่าแรงจะต้องคุยกันหลายส่วนไม่ใช่อยากขึ้นก็จะขึ้น แล้วขึ้นทุกจังหวัดพร้อมกันไม่ได้เพราะบางพื้นที่ไม่มีอุตสาหกรรมหนักบางพื้นที่ไม่มี ดังนั้นจะมาขั้น450บาทต่อวันทุกจังหวัดไม่ได้ไม่งั้นเอกชนตายกันพอดี”