นางแพตริเซีย มงคลวนิช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ(สบน.)เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า สบน.ติดตามการเบิกจ่ายเงินโครงการลงทุนภาครัฐที่เป็นโครงการเงินกู้ที่คณะรัฐมนตรี(ครม.) อนุมัติและอยู่ระหว่างดำเนินโครงการ(Ongoing) ในสาขาการลงทุนต่างๆ พบว่า มีโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการ 110 โครงการ กรอบวงเงินรวม 2,125,228.05 ล้านบาท โดย ณ สิ้นเดือนเมษายน 2566 มีผลการเบิกจ่ายเงินสะสมตั้งแต่เริ่มโครงการ 963,927.31 ล้านบาท คิดเป็น 45.36% ของกรอบวงเงินตามมติ ครม.
ขณะที่การเบิกจ่ายเงินโครงการลงทุนภาครัฐในปีงบประมาณ พ.ศ.2566 มีผลการเบิกจ่ายเงินสะสม ณ สิ้นเดือนเมษายน 2566 ทั้งสิ้น 76,572.67 ล้านบาท คิดเป็น 53.58% ของแผนการเบิกจ่ายเงินปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 จำนวน 142,909.61 ล้านบาท ประกอบด้วย เงินกู้ 39,164.15 ล้านบาทคิดเป็น 51.14% เงินรายได้ 25,900.83 ล้านบาท คิดเป็น 33.83% และเงินงบประมาณ 11,507.69 ล้านบาท สัดส่วน 15.03%
อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาตามหน่วยงานพบว่า บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด(ธพส.) เบิกจ่ายได้ 2,319.67 ล้านบาทสูงกว่าแผน 1,571.78 ล้านบาท หรือ 292% ของแผนการเบิกจ่าย จากโครงการพัฒนาพื้นที่ส่วนต่อขยายศูนย์ราชการฯ โซนซี ธพส. เร่งรัดการก่อสร้างอาคารด้านทิศใต้ อาคารจอดรถและซ่อมบำรุง (Depot) และระบบสาธารณูปโภคภายในอาคาร ทำให้มีีความก้าวหน้าของโครงการ 35.80% คาดว่าจะทยอยเปิดใช้งานโครงการได้ในไตรมาสที่ 2 ของปีงบประมาณ 2567
ตามด้วยการประปานครหลวง (กปน.)เบิกจ่ายได้ 2,936.40 ล้านบาท สูงกว่าแผน 811.04 ล้านบาท หรือ 128%ของแผนการเบิกจ่าย โดยโครงการปรับปรุงกิจการประปาแผนหลัก ครั้งที่ 9 ผู้รับจ้างได้เร่งรัด การออกแบบงานก่อสร้างสถานีสูบจ่ายนํ้าและถังเก็บนํ้าใส และงานวางท่อช่วงซอยไมตรีจิต 38 ถึงถนนคลองเก้า
การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.) เบิกจ่ายได้ 12,462.05 ล้านบาทสูงกว่าแผน 1,719.33 ล้านบาท หรือ 116% ของแผนการเบิกจ่าย จากโครงการพัฒนาระบบส่งและจำหน่าย ระยะที่ 2 (คพจ.2) ผู้รับจ้างเร่งรัดจัดซื้อและเบิกจ่ายเงินค่าวัสดุและอุปกรณ์หลักของโครงการ เช่น อลูมิเนียมอินกอท และสายไฟ เป็นต้น และเร่งรัดการเบิกจ่ายเงินค่าจ้างเหมาการก่อสร้างสถานีไฟฟ้าแรงสูง เช่น สถานีไฟฟ้าแรงสูงท่ามะกา 2 และสถานี ไฟฟ้าแรงสูงพัฒนานิคม 2
การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เบิกจ่ายได้ 24,090.64 ล้านบาทสูงกว่าแผน 2,037.39 ล้านบาทหรือ 109% ของแผนการเบิกจ่าย จากโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย -เชียงราย-เชียงของ รฟท. ได้เร่งรัดการส่งมอบพื้นที่การก่อสร้างโครงการ และการเบิกจ่ายเงินค่าเวนคืนที่ดิน รวมทั้งผู้รับจ้างได้เร่งรัดการก่อสร้างสถานีและทางรถไฟ
ส่วนหน่วยงานที่เบิกจ่ายได้ตํ่ากว่าแผนมากที่สุดคือ กองทัพเรือ(ทร.)เบิกจ่ายได้ 38.63 ล้านบาทตํ่ากว่าแผน 532.36ล้านบาท หรือคิดเป็น 7%ของแผนการเบิกจ่าย เนื่องจากโครงการสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก(ในส่วนที่รัฐรับภาระการลงทุน)ทร. อยู่ระหว่างเตรียมเสนอรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA)ให้คณะรัฐมนตรี(ครม.)พิจารณา
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 8-12 พฤษภาคม 2566 ธนาคารเพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเอเชีย(AIIB) ได้จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการ (Workshop) และลงพื้นที่สำรวจโครงการ เพื่อสร้างความเข้าใจด้านการจัดซื้อจัดจ้าง การบริหารจัดการด้านการเงินและประเด็นที่เกี่ยวข้องร่วมกับสบน. ทร. และ สำนักงาคณะกรรมการนโยบาย เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.)
นอกจากนี้ สกพอ. และ AIIB ได้ลงนามในบันทึกช่วยจำ (Aide-Memoire) การเตรียมความพร้อมในการดำเนินโครงการด้วยแล้ว และ สบน. จะทำหนังสือถามความเห็น สกพอ. และทร. เกี่ยวกับ Aide-Memoire ดังกล่าว เพื่อยืนยันความถูกต้องและจะจัดส่งให้ AIIB อย่างเป็นทางการต่อไป
ขณะที่บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)หรือ ทอท. เบิกจ่ายได้ 426.62 ล้านบาท ตํ่ากว่าแผน 2,241.66 ล้านบาทหรือคิดเป็น 16% ของแผนการเบิกจ่าย จากโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ปีงบประมาณ 2554-2560) คือ งานก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันออก คณะกรรมการ กำหนดราคากลางงานจ้างอยู่ระหว่างพิจารณาปรับแบบส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันออก (East Expansion) ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์การเดินทางในปัจจุบัน
หน้า 1 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 43 ฉบับที่ 3,891 วันที่ 28 - 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2566