“พาณิชย์” หนุนสินค้าภาคใต้ใช้ประโยชน์ FTA บุกตลาดค้าเสรี

02 มิ.ย. 2566 | 03:07 น.
อัปเดตล่าสุด :02 มิ.ย. 2566 | 03:12 น.

พาณิชย์ลงพื้นที่ปัตตานี เปิดเวทีวิเคราะห์สินค้าดาวเด่น ทั้งอาหารทะเลแปรรูปและผ้าบาติก แนะพัฒนาสินค้าตอบโจทย์ตลาดและผู้บริโภค ดันใช้ FTA กรุยทางขยายส่งออกสินค้าไปตลาดต่างประเทศ

 

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่าการใช้ประโยชน์ FTA ขยายการส่งออกสินค้าของดีปัตตานีไปตลาดอาเซียน ภายใต้โครงการการสร้างเครือข่ายเชื่อมโยง 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ

สู่ตลาดการค้าเสรีอาเซียน ไม่ว่าจะเป็น ผ้าบาติก ข้าวเกรียบปลา ลูกหยี น้ำผึ้งชันโรง และขิงผง การพัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์ความต้องการของตลาด และผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญเรื่องสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนเป็นเรื่องจำเป็น

 

นอกจากนี้กรมยังได้ลงพื้นที่พบปะผู้ประกอบการ วิสาหกิจชุมชน และเกษตรกรในพื้นที่ เพื่อรับฟังข้อมูลการผลิตและจำหน่ายสินค้า เช่น ผู้ประกอบการแพปูโชคอุดมรัชฏ์ เป็นผู้ผลิตสินค้าปูม้าต้มสุกพรีเมี่ยม และเนื้อปูม้าก้อนพาสเจอไรซ์บรรจุกล่อง ซึ่งทำการประมงที่อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและไม่ทำลายระบบนิเวศ 

“พาณิชย์” หนุนสินค้าภาคใต้ใช้ประโยชน์ FTA บุกตลาดค้าเสรี

ผู้ประกอบการข้าวเกรียบปลาหรือกรือโป๊ะแบรนด์นัสรีน เป็นผู้ที่พัฒนาผลิตภัณฑ์จนสามารถส่งออกไปตลาดญี่ปุ่นได้สำเร็จ และวางจำหน่ายในโมเดิร์นเทรดทั่วประเทศ  

“พาณิชย์” หนุนสินค้าภาคใต้ใช้ประโยชน์ FTA บุกตลาดค้าเสรี

วิสาหกิจชุมชนโอรังปันตัย เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายปลากุเลาเค็ม มีกระบวนการผลิตเป็นเอกลักษณ์ มีรสชาติดี ไม่มีสารเจือปน และจำหน่ายสินค้าได้ กิโลกรัมละ 1,300 บาท ถือเป็นสินค้าที่มีคุณภาพและมาตรฐาน และกลุ่มผ้าบาราโหมบาติก โดยมีการดัดแปลงลวดลายจากเครื่องกระเบื้อง ถ้วยชามโบราณ ย้อมผ้าจากสีธรรมชาติ มีลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้สามารถจำหน่ายสินค้าได้ในราคาสูง และวางจำหน่ายบนเว็บไซต์ของสายการบินไทยได้

“กรมมีแผนจะนำสินค้าที่มีศักยภาพของจังหวัดปัตตานี เข้าร่วมจำหน่ายในงาน FTA Fair นำสินค้าไทย สู่ตลาดการค้าเสรี ซึ่งจะจัดขึ้นในเดือนสิงหาคมนี้ เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจและเพิ่มช่องทางจำหน่ายสินค้าแบบปลีกให้กับผู้ประกอบการ รวมทั้งการจับคู่ธุรกิจกับห้างโมเดิร์นเทรดและคู้ค้าในต่างประเทศ โดยใช้ประโยชน์จาก FTA ซึ่งปัจจุบันคู่ค้า FTA ส่วนใหญ่ อาทิ อาเซียน จีน ออสเตรเลีย และฮ่องกง ได้ยกเว้นการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากไทยแล้ว”

ในปี 2565 ไทยส่งออกปูสด แช่เย็นแช่แข็ง นึ่งหรือต้ม และปูกระป๋อง ไปตลาดโลก มูลค่า 46 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตลาดส่งออกสำคัญ อาทิ จีน ออสเตรเลีย และเกาหลีใต้ ไทยส่งออกข้าวเกรียบที่มีเนื้อปลาเป็นส่วนผสมและปลาปรุงแต่ง มูลค่า 103 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตลาดส่งออกสำคัญ อาทิ จีน ออสเตรเลีย และกัมพูชา ไทยส่งออกปลาแห้งใส่เกลือหรือรมควัน มูลค่า 52.34 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตลาดส่งออกสำคัญ อาทิ ญี่ปุ่น ศรีลังกา และสหรัฐฯ และไทยส่งออกผ้าผืน โดยเฉพาะบาติก มูลค่า 0.71 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตลาดส่งออกสำคัญ อาทิ อินเดีย ปากีสถาน และเวียดนาม