นายจุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี (EEC) เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่เห็นสัญญาณการย้ายฐานการผลิตของนักลงทุน เนื่องจากไทยเป็นฐานการผลิตในหลายอุตสาหกรรมและมีอุตสาหกรรมเป้าหมายของนักลงทุนอยู่แล้ว
ส่วนนักลงทุนใหม่ ยอมรับว่า การเปลี่ยนแปลงรัฐบาลอาจมีผลต่อการตัดสินใจลงทุนบ้าง แต่ที่ผ่านมามีกลุ่มนักลงทุนจากทั้งจีนญี่ปุ่นและอินเดียที่เดินทาง หารือถึงการลงทุนในไทย โดยเฉพาะอุตสาหกรรม การแพทย์และยา
จากเดิมที่สนใจจะลงทุนในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ หรือยานยนต์ไฟฟ้า หรืออีวี (EV) โดยสะท้อนว่าไทยยังมีความน่าสนใจสำหรับนักงทุน หรือเนื้อหอม เพราะมีหลายอุตสาหกรรมเป้าหมายที่ตอบโจทย์นักลงทุน
อย่างไรก็ดี ภายในเดือนมิถุนายนนี้ ทีมอีอีซีมีแผนที่จะเดินทางไปประเทศฝรั่งเศส เพื่อเจรจากับกลุ่มนักลงทุนของฝรั่งเศสที่สนใจจะเข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมและ อากาศยาน อวกาศ และศูนย์ซ่อมอากาศยานในอีอีซี ถือเป็นโอกาสในการดึงนักลงทุนต่างชาติให้ขยายการลงทุนไทยเพิ่มขึ้น
นายจุฬา กล่าวต่อไปอีกว่า อีอีซี ไม่ได้รอให้ตั้งรัฐบาลใหม่ก่อนจึงเดินหน้าดึงการลงทุน เพราะอีอีซีมีนโยบายส่งเสริมการลงทุน เช่น แพคเกจสิทธิประโยชน์ทางภาษีต่างๆรองรับไว้อยู่แล้ว แต่หากการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ล่าช้าออกไปหรือเลยเดือนสิงหาคมยอมรับว่า อาจมีผลกระทบบ้าง เพราะบางนโยบายยังต้องรอรัฐบาลใหม่ เช่น
การกำหนดกรอบอัตราค่าเช่าในพื้นที่อีอีซีดี อยู่ในอำเภอศรีราชาที่เน้นลงทุนในด้านดิจิทัลที่นักลงทุนสอบถามอัตราค่าเช่า แต่ยังไม่มีกำการกำหนดค่าเช่าที่เหมาะสมและจูงใจ เนื่องจากทีดินในศรีราชามีราคาสูง จึงต้องรัฐบาลใหม่พิจารณา และแก้ปัญหาราคาค่าเช่าที่สูงขึ้น