"NIA" ปั้นไทยสู่ชาตินวัตกรรมยกระดับความสามารถการแข่งขัน

23 มิ.ย. 2566 | 04:36 น.
อัปเดตล่าสุด :23 มิ.ย. 2566 | 04:36 น.

"NIA" ปั้นไทยสู่ชาตินวัตกรรมยกระดับความสามารถการแข่งขันไปในระดับสากล เดินหน้าร่วมมือขับเคลื่อนผ่านงาน STARTUP x INNOVATION THAILAND EXPO 2023 รับการเติบโตของสตาร์ทอัพและธุรกิจนวัตกรรม

นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า Innovation Partnership หรือหุ้นส่วนทางนวัตกรรม เป็นอีกหนึ่งกุญแจสำคัญที่จะนำประเทศไทยให้ก้าวสู่การเป็นประเทศแห่งนวัตกรรม โดยจะเห็นได้ว่านวัตกรรมไม่ได้เป็นเพียงแค่สิ่งอำนวยความสะดวก แต่เป็นอนาคตของการยกระดับคุณภาพชีวิต คุณภาพสังคม และคุณภาพเศรษฐกิจที่เอื้อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนในทุกมิติ 

โดยเฉพาะการผลักดันนวัตกรรมสู่ผู้ประกอบการสตาร์ทอัพและเอสเอ็มอี เพื่อให้กลายเป็นผู้ประกอบการฐานนวัตกรรม (Innovation-Based Enterprise) ที่สร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน และยกระดับความสามารถเดิมที่มีให้สูงขึ้นไปในระดับสากลด้วยฐานคิดนวัตกรรม 

รวมถึงการแก้ปัญหาและสร้างโอกาสใหม่ๆ ทางเศรษฐกิจ ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาในด้านนวัตกรรม เพื่อให้มีส่วนช่วยพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของชาติเพื่อยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น และการที่ไทยจะเป็นประเทศที่มีการพัฒนานวัตกรรมที่เป็นเลิศได้ จำเป็นที่จะต้องมีหุ้นส่วนในด้านนวัตกรรมในการยกระดับและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในทุกด้าน 

"การส่งเสริมให้คนไทยเปลี่ยนบทบาทจากผู้บริโภค มาเป็นผู้สร้างสรรค์ เป็นผู้คิดนั้น ถือเป็นความท้าทายของประเทศ"

รศ.นพ.สรนิต ศิลธรรม ประธานกรรมการนวัตกรรมแห่งชาติ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA กล่าวว่า NIA กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)ได้ดำเนินการจัดงานสตาร์ทอัพและอินโนเวชั่น ไทยแลนด์ เอ็กซ์โป 2023 (STARTUP x INNOVATION THAILAND EXPO 2023) หรือ SITE 2023 ภายใต้แนวคิด INNOVATION PARTNERSHIP - TOGETHER WE GROW ร่วมสร้างหุ้นส่วนนวัตกรรมเพื่อนำไทยสู่ชาตินวัตกรรม

NIA ปั้นไทยสู่ชาตินวัตกรรมยกระดับความสามารถการแข่งขัน  

อีกทั้งยังรองรับการเติบโตของสตาร์ทอัพและธุรกิจนวัตกรรม สร้างความเข้มแข็งในระบบนิเวศนวัตกรรมไทยและขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นชาตินวัตกรรม โดยที่ผ่านมา NIA ทำหน้าที่ในฐานะหน่วยงานบูรณากรเชิงระบบ (System Integrator) ซึ่งมุ่งในการสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบนวัตกรรมไทยและเชื่อมโยงการทำงานของทุกภาคส่วนภายใต้ระบบนวัตกรรมแห่งชาติ 

ส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดการนำนวัตกรรมไปขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจสำคัญของประเทศไทย เช่น เศรษฐกิจฐานราก เศรษฐกิจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน และเศรษฐกิจสร้างสรรค์ 

"ลำดับต่อไปของ NIA ภายใต้บทบาทใหม่ของการเป็น “ผู้อำนวยความสะดวกทางนวัตกรรม หรือ Focal Facilitator” นั้น มุ่งเน้นการพัฒนาระบบนวัตกรรมที่เปิดกว้างในการเข้าถึงโอกาสและความร่วมมือในการพัฒนาระบบการเงินนวัตกรรม พร้อมทั้งส่งเสริมการใช้ข้อมูลนวัตกรรมเพื่อสนับสนุนการตัดสินใจเชิงยุทธศาสตร์ และพัฒนาองค์กรไปสู่องค์กรที่พร้อมต่อความเปลี่ยนแปลง เพื่อให้ทุกภาคส่วนพร้อมมุ่งสู่การเป็นประเทศแห่งนวัตกรรม (Innovation Nation)”

ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการ NIA กล่าวว่า งาน SITE 2023 เป็น Tech Conference ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมหกรรมนวัตกรรมที่ใหญ่ที่สุดของปี ที่รวมนักรบเศรษฐกิจใหม่ทั้งรุ่นใหญ่รุ่นเล็ก กูรูด้านนวัตกรรมจากทั่วโลก ผู้ประกอบการธุรกิจนวัตกรรม นักลงทุน ภาครัฐ ภาคเอกชน 

สำหรับ SITE 2023 จะประกอบด้วย 4 กิจกรรมหลัก ได้แก่ 

  • Forum เวทีที่รวบรวมสุดยอดสตาร์ทอัพและนวัตกรชั้นนำของเมืองไทย และวิทยากรชื่อดังจากต่างประเทศเพื่อแบ่งปันองค์ความรู้ แนวคิด เทคนิคแนวทางช่วยสนับสนุนการทำนวัตกรรมกว่า 30 หัวข้อ 
  • Business Opportunity โอกาสสำคัญสำหรับหน่วยงาน สตาร์ทอัพและผู้ประกอบการธุรกิจนวัตกรรมในการต่อยอดธุรกิจผ่านกิจกรรมที่จัดขึ้น เช่น Marketplace ตลาดจำหน่ายบริการและสินค้าจากสตาร์ตอัพและผู้ประกอบการนวัตกรรมกว่า 250 บูธ และจากหน่วยงานกว่า 50 หน่วยงาน รวมถึงการแสดงสินค้าและนวัตกรรมจากต่างประเทศอีก 10 ประเทศ พร้อมด้วยกิจกรรม Business Matching ที่รวบรวมนักลงทุนระดับท๊อปของเอเชียที่พร้อมลงทุนในสตาร์ทอัพและธุรกิจนวัตกรรมกว่า 50 ราย 
  • Show นำเสนอนวัตกรรม Generative AI ที่คาดว่าจะมีบทบาทสำคัญต่อธุรกิจต่อไปในอนาคต
  • PM AWARD พิธีประกาศเกียรติคุณและเชิดชูเกียรติให้แก่ผู้มีส่วนร่วมในการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาระบบนิเวศสำหรับสตาร์ทอัพของประเทศ และผู้ที่มีส่วนร่วมในการนำนวัตกรรมเข้ามารับมือความท้าทายของโลก 

"งาน SITE 2023 เป็นงานที่จะแสดงโอกาสทางนวัตกรรม องค์ความรู้ แนวคิด เทคนิคแนวทางที่สามารถช่วยต่อยอดธุรกิจ และได้สร้างเครือข่ายและเชื่อมต่อกับกลุ่มคนในวงการเดียวกัน โดยเป็นความร่วมมือระหว่างภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อสร้างนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ รองรับการเติบโตของสตาร์ทอัพและธุรกิจนวัตกรรม สร้างความเข้มแข็งในระบบนิเวศนวัตกรรมไทยและขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นชาตินวัตกรรม"