วันนี้ (25 มิถุนายน 2566) ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นายธนินท์ เจียรวนนท์ นายกสมาคมนักธุรกิจชาวจีนโพ้นทะเลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และประธานกิตติมศักดิ์ถาวรหอการค้าไทย-จีน ปาฐกถาพิเศษ ในงานประชุมนักธุรกิจชาวจีนโลก (World Chinese Entrepreneurs Convention-WCEC) ครั้งที่ 16 ซึ่งมีผู้เข้าร่วมประชุมกว่า 4,000 คน จาก 50 ประเทศทั่วโลก
นายธนินท์ ระบุตอนหนึ่งว่า ทุกวันนี้มีการเปลี่ยนแปลงไม่แน่นอนเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไงก็แล้วแต่นักธุรกิจชาวจีน และนักธุรกิจชาวจีนโพ้นทะเล สามารถพลิกวิกฤตเป็นโอกาส และหาทางคว้าโอกาสเหล่านั้นได้
โดยในด้านการลงทุนนั้น ปัจจุบันประเทศไทยเป็นจุดศูนย์กลางอาเซียน ตอนนี้ยังมองโอกาสของการพัฒนาความสัมพันธ์ในภูมิภาค โดยหวังว่านักธุรกิจจีนจะมองโอกาสเข้ามาการลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ของไทย เพราะในอนาคตภาคการผลิตถือว่ามีความสำคัญ
ทั้งนี้ที่ผ่านมาประเทศไทยได้มีนโยบายส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรม 4.0 ผ่านการพัฒนาในพื้นที่ EEC โดยให้สิทธิประโยชน์กับโครงการต่าง ๆ เพื่อช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย
พร้อมกันนี้ยังมองด้วยว่า ปัจจุบันการนำเทคโนโลยีขั้นสูงมาใช้ในธุรกิจเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการพัฒนาอุตสาหกรรมต่อไปในอนาคต ตัวอย่างที่ชัดเจนคือ การเข้ามาของนักลงทุนจากญี่ปุ่นในประเทศไทยก่อนหน้านี้ และนำเทคโนโลยีมาพัฒนาในอุตสาหกรรมยานยนต์ และอิเล็กทรอนิกส์ ทำให้ประเทศมีโอกาสในการพัฒนาอุตสาหกรรมต่าง ๆ มากขึ้น
“ปัจจุบัน จีนมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก และมีประชากรมากกว่า 1,400 ล้านคน คิดย้อนกลับไปญี่ปุ่นมีประชากรไม่กี่ร้อยล้านคนแต่สามารถสร้างบทบาทด้านเศรษฐกิจ และเชื่อว่าจีนก็สามารถทำได้เช่นกัน”
นายธนินท์ กล่าวว่า ในอนาคตคนหนุ่มสาวจะต้องมีการออกไปสร้างธุรกิจ ซึ่งในวันนี้การสร้างธุรกิจ มีความสะดวกมากกว่าในอดีต เพราะมีทั้งองค์ความรู้ เทคโนโลยี และอินเทอร์เน็ตที่สามารถใช้สืบค้นข้อมูลตัวเลขและจัดหาสินค้าและวัตถุดิบในการลงทุนได้ แต่ก็ต้องให้ความสำคัญกับการผลิต และการมีศูนย์กระจายสินค้าที่ดีด้วย
ทั้งนี้เห็นว่า ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในโลกยุคใหม่ ต้องมีการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ บริการ และเทคโนโลยี รวมถึงต้องพัฒนาศักยภาพคนรุ่นใหม่ให้มีความรู้และความสามารถทัดเทียมระดับนานาชาติ และสามารถแข่งขันได้ในเวทีโลก แม้อนาคตจะเป็นโลกของหุ่นยนต์และเทคโนโลยีชีวภาพ แต่แรงงานคน ก็สามารถหันไปทำงานที่ใช้ทักษะสูงกว่านั้นได้
นอกจากนี้ยังมองถึงเรื่องการลงทุนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น พลังงานไฟฟ้า ถือเป็นเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งในภาคการผลิตของอนาคต เพราะจะช่วยการส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาของอุตสาหกรรม
โดยยกตัวอย่างนโยบายด้านพลังงานไฟฟ้าของประเทศฝรั่งเศส ซึ่งลงทุนผลิตพลังงานไฟฟ้าพลังงานสะอาดจากนิวเคลียร์ และประชาชนชาวฝรั่งเศสไม่ได้แสดงการคัดค้านเรื่องนิวเคลียร์ นั่นเพราะที่ผ่านมารัฐบาลฝรั่งเศสวางมาตรการในการลดความเสี่ยงและคุ้มครองประชาชน ส่งผลให้เกิดความคึกคักในการลงทุนอย่างมาก
นายธนินท์ ยอมรับว่า เรื่องของพลังงานสะอาด ถือเป็นสิ่งสำคัญและมีหลายประเภททั้งการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานน้ำ พลังงานลม และพลังงานนิวเคลียร์ เพราะในอนาคตพลังงานสะอาดจะมีความสำคัญต่อภาคการผลิต และยังช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศได้อีกด้วย