นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า วันที่ 5 กรกฎาคมจะมีการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ซึ่งประกอบด้วย ส.อ.ท. ,สภาหอการค้าไทย และสมาคมธนาคารไทย เพื่อพิจารณาตัวเลขเศรษฐกิจไทยและสถานการณ์เศรษฐกิจโลก
ทั้งนี้ เบื้องต้นจะหารือเน้นหนักเรื่องภาคการส่งออกที่กำลังน่าห่วง โดยจะมีการพิจารณาเป้าหมายการส่งออกว่าจะคงระดับ -1 ถึง 0% ต่อไป หรือจะลดเป้าหมายเป็น -2 ถึง 0% ขอให้ที่ประชุมพิจารณาร่วมกันอีกครั้ง
โดยหากต้องการคงเป้าส่งออกครึ่งปีหลังการส่งออกไทยจะต้องได้เฉลี่ยเดือนละ 24,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
นายเกรียงไกร กล่าวต่อไปอีกถึงกรณีที่นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ได้รับเลือกเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่า จากการเลือกประธานสภาฯที่ราบรื่นทำให้เอกชนหวังว่าการจัดตั้งรัฐบาลจะเป็นไปตามไทม์ไลน์หรือเร็วกว่านั้นหากเรียบร้อยภายในเดือนกรกฎาคมจะยิ่งดีมาก
เพราะเวลานี้เศรษฐกิจกำลังแย่จากสถานการณ์การส่งออกที่ติดลบ จนทำให้ผู้ผลิตที่เน้นส่งออกได้รับผลกระทบผลิตสินค้าออกมาแต่ขายได้น้อยลง หรือบางรายขายไม่ได้ แต่ยังจำเป็นต้องผลิตต่อเพื่อรักษาการจ้างงานจนบางรายเริ่มลดโอที และคาดหวังว่าปลายปีคำสั่งซื้อจะกลับมา
อย่างไรก็ดี จากการสำรวจสถานการณ์การผลิตล่าสุดพบว่า มีถึง 23 อุตสาหกรรมที่เผชิญสถานการณ์ดังกล่าว อาทิ อาทิ เฟอร์นิเจอร์ วัสดุก่อสร้าง เหล็ก สิ่งทอ ดังนั้นเอกชนจึงคาดหวังให้ตั้งรัฐบาลโดยเร็ว เพื่อให้รัฐบาลใหม่เข้ามาผลักดันภาคการส่งออกโดยด่วน
สำหรับวิธีที่ทำได้ตอนนี้คือการขยายตลาดส่งออกใหม่ และเร่งเดินหน้าทำเขตการค้าเสรี หรือเอฟทีเอ (FTA) กับประเทศต่างๆ