นายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เปิดเผยภายหลังการประชุมเพื่อแลกเปลี่ยนและรับฟังปัญหาของผู้ประกอบการตามแผนปฏิบัติการผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบังว่า การประชุมในครั้งนี้กทท.ได้เชิญผู้ประกอบการและผู้ที่เกี่ยวข้องในท่าเรือแหลมฉบังร่วมหารือเพื่อยกระดับและพัฒนาการให้บริการท่าเรือ ตอบโจทย์ท่าเทียบเรือสินค้าอเนกประสงค์และโลจิสติกส์
สำหรับประเด็นในการหารือครั้งนี้ มีหลายประเด็น เช่น 1.การแก้ปัญหาจราจรภายในท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งเป็นปัญหาที่สะสมมายาวนาน โดยการแก้ไขในครั้งนี้กทท.จะต้องบูรณาการร่วมกับภาครัฐและภาคเอกชน เบื้องต้นกทท.ได้ดำเนินการพัฒนาระบบ Port Community System ซึ่งเป็นระบบเชื่อมโยงที่ช่วยแก้ปัญหาการจราจรติดขัด โดยมีสาเหตุมาจากระยะเวลาการเข้า-ออกของเรือสินค้าเทียบท่าที่ล่าช้า
นอกจากนี้กทท.ได้ดำเนินการใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อช่วยบริหารเวลารถบรรทุกเข้าออกท่าเรือแหลมฉบัง (Truck Queuing) ปัจจุบันอยู่ระหว่างปรับปรุงระบบให้สอดคล้องกับตารางเวลาของเรือสินค้า ตลอดจนนำระบบเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการจองคิวภายในพื้นที่ด้วย
2.การพัฒนาพื้นที่แหลมฉบัง 90 ไร่ กทท.มีแผนจะเริ่มเปิดประมูลได้ภายในปีนี้ โดยเป็นการลงทุนในรูปแบบให้เอกชนเช่าพื้นที่ ซึ่งมีเงื่อนไขว่าพื้นที่ดังกล่าวจะต้องแก้ไขปัญหารถติดและรองรับการใช้บริการรถบรรทุกอีวี เพื่อนำไปสู่การให้บริการท่าเรือสีเขียว รวมทั้งกทท.จะมีการพิจารณาค่าเก็บที่จอดรถที่เหมาะสม ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนแก่ผู้ประกอบการ คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายปี 2567
นอกจากนี้กทท.มีแผนนำพื้นที่อื่นๆที่ไม่ได้ใช้งานนำมาปรับใช้เป็นพื้นที่จุดจอดรถชั่วคราว ตลอดจนการนำพื้นที่อื่นๆมาพัฒนาการบริหารตู้สินค้าเพื่อไม่ให้เกิดการจราจรติดขัด