เอกชนลั่นงบปี67 ล่าช้าฉุดเศรษฐกิจดิ่งเหว หวังรัฐบาลใหม่ช่วยขับเคลื่อน

11 ก.ค. 2566 | 04:59 น.
อัปเดตล่าสุด :11 ก.ค. 2566 | 11:12 น.

เอกชนลั่นงบปี67 ล่าช้ายิ่งฉุดเศรษฐกิจดิ่งเหว หวังรัฐบาลใหม่ช่วยขับเคลื่อน ชี้เป็นเครื่องยนต์หลัก 1 ใน 2 ของประเทศนอกจากการท่องเที่ยว ระบุเวลานี้การใช้จ่ายเอกชนตึงตัว ส่วนประชาชนมีปัญหาหนี้ครัวเรือน

นายอิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองประธาน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ถึงประเด็นเรื่องงบปี 67 ว่า หากล่าช้า 6 เดือนตามที่กระทรวงการคลังออกประเมิน และเงินลงทุนจะหายไป 1.4 แสนล้านบาท ย่อมกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ 

ทั้งนี้ เนื่องจากการใช้จ่ายจากภาครัฐถือเป็นเครื่องยนต์หลัก 1 ใน 2 ของประเทศนอกจากการท่องเที่ยวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่เวลานี้การใช้จ่ายของเอกชนเองก็ค่อนข้างตึงตัว ไม่มีการลงทุนเพิ่มเติม ส่วนภาคประชาชนเองก็มีปัญหาเรื่องหนี้ครัวเรือน

"ภาคเอกชนนั้น หากจะลงทุนเพิ่มเติมก็ต้องรอความชัดเจนจากรัฐบาล หากยังเป็นสถานการณ์ที่เลื่อนลอยก็จะไม่กล้าตัดสินใจลงทุน"
 

อย่างไรก็ดี จากการประชุมร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน หรือ กกร. ครั้งล่าสุด ที่ประชุมเองก็แสดงความเป็นห่วงเรื่องการใช้เงินงบประมาณจากภาครัฐ ต้องการให้มีการนำเงินดังกล่าวมากระตุ้นเศรษฐกิจ นำมาใช้จ่ายในสิ่งที่จำเป็น หรือเรียกว่าเป็นปัจจัยแห่งความหวังในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศอย่างแท้จริง 

ภาคอสังหาริมทรัพย์ในกลุ่มของสินค้าวัสดุก่อสร้าง ก็หวังให้ภาครัฐมีงบมาซ่มแซมถนน สร้างโครงการอื่น เพราะหากไม่มีงบก็ขายสินค้าไม่ได้ เนื่องจากส่งออกก็ไม่ดี ในประเทศก็ไม่รู้จะขายให้กับผู้ใด จะอยู่อย่างไร เวลานี้ต้องยอมรับตามตรงว่าค่อนข้างซีเรียส

ยิ่งเวลานี้การส่งออกก็ไม่ค่อยจะสู้ดีล่าสุดยังติดลบอยู่ 2% ก็จะยิ่งมีปัญหา โดยภาคการส่งออกปัจจุบันรอ 2 เรื่อง ได้แก่  

  • รัฐบาลใหม่ที่จะเข้ามาช่วยหาตลาดใหม่ เพื่อกระจายสินค้า
  • การเร่งทำ FTA เพือให้มีช่องทางในการส่งออกเพิ่มมากขึ้น 

"หากรัฐบาลใหม่ยังไม่มา เศรษฐกิจก็จะไม่มีการขับเคลื่อน หรือเดินหน้าแบบล่าช้า เพราะข้าราชการประจำเองก็คงจะไปขับเคลื่อนไม่ได้อย่างแน่นอน การส่งออกก็จะยิ่งแย่"