นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมได้ติดตามสถานการณ์การส่งออกสินค้าของไทย พบว่า สินค้าเครื่องสำอางเป็นหนึ่งในสินค้ายอดนิยม และหลังจากสถานการณ์ของโควิดคลี่คลาย ตลาดเครื่องสำอางยังฟื้นตัวเร็ว สอดคล้องกับสถิติการส่งออกสินค้าเครื่องสำอางของไทยที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2564 อัตราการเติบโต 2% และในปี 2565 อัตราการเติบโต 7%
เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยในช่วงครึ่งปีแรก (ม.ค.-มิ.ย. 2566) ไทยส่งออกสินค้าเครื่องสำอางไปตลาดโลก มูลค่า 1,696 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ส่งออกไปตลาดคู่ค้า FTA มูลค่า 1,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า คิดเป็นสัดส่วน 83% ของการส่งออกเครื่องสำอางทั้งหมด
ในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ ประเทศคู่ค้า FTA ล้วนเป็นตลาดส่งออกสำคัญของไทย ไม่ว่าจะเป็น อาเซียน มูลค่า 756 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 1% จีน มูลค่า 153 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 24% เกาหลีใต้ มูลค่า 60 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 3% และอินเดีย มูลค่า 54 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 75% สินค้าส่งออกที่ขยายตัวได้ดี อาทิ เครื่องสำอางที่ใช้แต่งหน้าหรือบำรุงผิว มูลค่า 323 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 25% ตลาดส่งออกสำคัญ คือ จีน เมียนมา
และฟิลิปปินส์ สบู่ มูลค่า 140 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 2% ตลาดส่งออกสำคัญ คือ ออสเตรเลีย เมียนมา และญี่ปุ่น เครื่องสำอางกลุ่มที่ใช้อาบน้ำหรือดับกลิ่นตัว มูลค่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 8% ตลาดส่งออกสำคัญ คือ ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย และหัวน้ำหอมและน้ำหอม มูลค่า 38 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 230% ตลาดส่งออกสำคัญ คือ จีน อินเดีย และเกาหลีใต้
ทั้งนี้ ความตกลงการค้าเสรี หรือ FTA ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ช่วยสร้างแต้มต่อให้กับสินค้าเครื่องสำอางของไทย จากการลดอุปสรรคกำแพงภาษี ซึ่งปัจจุบันไทยมี FTA กับคู่ค้า 18 ประเทศ โดยคู่ค้า FTA 14 ประเทศ ได้แก่ อาเซียน จีน ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และฮ่องกง ไม่เก็บภาษีนำเข้าสินค้าเครื่องสำอางจากไทยทุกรายการแล้ว เหลือเพียง 4 ประเทศ ได้แก่ เกาหลีใต้ อินเดีย ชิลี และเปรู ที่ยังคงเก็บภาษีนำเข้าสินค้าเครื่องสำอางบางรายการ นอกจากนี้ ภายใต้ความตกลง RCEP เกาหลีใต้ยังลดภาษีเพิ่มเติมให้ไทย ได้แก่ สบู่เหลว จะทยอยลดภาษีจนเหลือศูนย์ ในปี 2579 และสบู่ก้อนและแชมพู จะทยอยลดภาษีจนเหลือศูนย์ ในปี 2584