"ประยุทธ์" ยกทีมเยือน “การบินไทย” วันนี้ ไล่เช็คแผนฟื้นฟูกิจการ

วันนี้ (18 สิงหาคม 2566) เวลา 10.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และคณะ โดยเฉพาะฝ่ายเศรษฐกิจของรัฐบาล เตรียมเดินทางไปเยี่ยมชมกิจการของ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ที่สำนักงานใหญ่บริษัท การบินไทย ถนนวิภาวดีรังสิต โดยนายกฯ จะให้ทางผู้บริหารได้รายงานความคืบหน้าในเรื่องการฟื้นฟูกิจการด้วย

สำหรับแผนฟื้นฟูกิจการของ การบินไทย นั้น ที่ผ่านมา ครม. ได้รับทราบรายงานความคืบหน้าการดำเนินงานของคณะกรรมการติดตามการดำเนินการแก้ไขปัญหา บริษัท การบินไทย โดยพบว่ามีสถานการณ์ที่ดีขึ้นตามลำดับ พร้อมทั้งตั้งเป้าหมายให้การบินไทยสามารถกลับเข้าไปซื้อ-ขายในตลาดหุ้น อีกครั้ง

ทั้งนี้ บริษัท การบินไทย แจ้งว่า จะดำเนินการแปลงหนี้เป็นทุนและเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน PPO ในช่วงไตรมาส 2 ปี 2567 ซึ่งจะทำให้มีส่วนของผู้ถือหุ้น จำนวน 28,685 ล้านบาท เพื่อให้สามารถกลับไปซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ภายในไตรมาส 4 ปี 2567

• การบินไทย ตีปีกไตรมาส 2/66 กำไร 2.2 พันล้าน ดันครึ่งปีแรกกำไร 1.47 หมื่นล้าน
• สัญญาณบวก“การบินไทย” ออกจากแผนฟื้นฟู Q3 ปี 67 รับพนักงานเพิ่มอีก 2 พันคน

ส่วนผลประกอบการล่าสุดของการบินไทยในช่วงไตรมาสที่ 2 ปี 2566 การบินไทย และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 2,273 ล้านบาท ขณะที่ปีก่อน ขาดทุน 3,213 ล้านบาท โดยเป็นกำไรส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 2,262 ล้านบาท ส่งผลให้ 6 เดือนแรก ปี 2566 การบินไทย และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 14,795 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุน 6,457 ล้านบาท โดยเป็นกำไรส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 14,776 ล้านบาท

นายชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวก่อนหน้านี้ว่า จากการดำเนินธุรกิจที่กำไรมา 4 ไตรมาสต่อเนื่อง แม้ไตรมาสที่ 2 จะเป็นช่วงโลว์ซีซัน แต่การบินไทยก็ยังยังมีกำไรจากการดำเนินงานสูงสุดในรอบ 20 ปี ชี้ให้เห็นว่าการบินไทยมีความสามารถในการแข่งขันที่ดีขึ้น และมีแนวโน้มที่ขยายตัวต่อเนื่องในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ซึ่งตอนนี้ถือว่าทำได้ดีกว่าแผนฟื้นฟูที่วางไว้

ด้วยเหตุนี้จึงน่าจะทำให้การบินไทย สามารถออกจากแผนฟื้นฟูกิจการได้ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2567 เร็วกว่าเดิม 1 ไตรมาส จากเดิมที่วางไว้ว่าน่าจะออกจากแผนฟื้นฟูกิจการได้ในช่วงไตรมาส 4 ของปี 2567

ส่วนแผนการขยายธุรกิจของการบินไทย การบินไทย กำหนดจัดหาเครื่องบินใหม่เข้ามาอีก 24 ลำโดยวิธีการเช่าดำเนินการ แบ่งเป็น 

• เครื่องบินแอร์บัส A 350 จำนวน 11 ลำ ขณะนี้รับมอบมาแล้ว 2 ลำ เหลือ 9 ลำรับมอบไตรมาส1 ปีหน้า 
• เครื่องบินแอร์บัส A 321 นีโอ จำนวน 12 ลำ จะเข้ามาใน ปี2026 ซึ่งเป็นเครื่องบินลำตัวแคบ ที่จะนำมาเพิ่มใหม่ 10 ลำ และนำมาทดแทนเครื่องบิน A 320 ของไทยสมายล์ที่จะหมดสัญญาเช่า 2 ลำ 
• โบอิ้ง 787-900 จำนวน  1 ลำ เพื่อนำมาใช้ในการขยายจุดบินใหม่และเพิ่มเที่ยวบินในเส้นทางบินที่มีศักยภาพ

ขณะที่ การปรับโครงสร้างกลุ่มธุรกิจการบิน โดยโอนเครื่องบินแอร์บัส เอ 320 จากไทยสมายล์ จำนวน 20 ลำมาไว้ที่การบินไทย ปัจจุบันโอนเข้ามาแล้ว 4 ลำ อีก 14 ลำที่เหลือจะทยอยโอนเข้ามา 

ด้านกระแสเงินสดของการบินไทย ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2566 อยู่ที่ 5.1 หมื่นล้านบาท ถือว่าอยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยการบินไทยมีแผนจะชำระหนี้กลางปีหน้า วงเงินประมาณ 1 หมื่นล้านบาท