นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ (DBD) เปิดเผยว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ดำเนินการส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ผ่าน 3 กิจกรรมหลักประกอบด้วย
ทั้งนี้ ในปี 2566 กรมได้จัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการพัฒนาและเพิ่มขีดความสามารถแข่งขันธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ 4 ครั้ง ได้แก่ หลักสูตรการเพิ่มมูลค่าธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ด้วย AI จังหวัดนครปฐม มีผู้ประกอบธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ เข้าร่วมจำนวน 60 คน (เป็นนิติบุคคล จำนวน 44 กิจการ)
,หลักสูตร ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการขนส่งสินค้าที่เน่าเสียง่าย (Introduction to Perishable Cargo Transportation) ผ่านระบบออนไลน์ Zoom มีผู้ประกอบธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ เข้าร่วมจำนวน 108 คน (เป็นนิติบุคคล จำนวน 71 กิจการ)
,หลักสูตร การยกระดับธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ด้วย Service Excellence ผ่านระบบออนไลน์ Zoom มีผู้ประกอบธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ เข้าร่วมจำนวน 112 คน (เป็นนิติบุคคล จำนวน 93 กิจการ)
และหลักสูตร การจัดการขนส่งสินค้าชายแดนและข้ามแดน อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา มีผู้ประกอบธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ เข้าร่วมจำนวน 60 คน (เป็นนิติบุคคล จำนวน 41 กิจการ)
สำหรับในปี 2566 กรมได้จัดกิจกรรมในพื้นที่ส่วนกลาง และพื้นที่ส่วนภูมิภาค 2 ครั้ง ดำเนินการจัดอบรมในพื้นที่จังหวัดชลบุรี สมุทรปราการ
ตั้งแต่ปี 2553 - 2566 มีธุรกิจที่ได้รับรองมาตรฐาน ISO 9001 แล้ว จำนวน 715 ราย โดยดำเนินการกิจกรรมอบรมให้ความรู้เรื่องข้อกำหนดของระบบบริหารคุณภาพและขั้นตอนในการพัฒนาสู่มาตรฐาน ISO 9001 ที่จังหวัดนนทบุรี และ จังหวัดสมุทรปราการ
นอจากนี้ ยังมีผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาแนะนำเชิงปฏิบัติการในเชิงลึก (Coaching) ที่สถานประกอบการ โดยที่ปรึกษาจะให้คำปรึกษาแนะนำเชิงปฏิบัติการที่สถานประกอบการ และให้คำแนะนำการแก้ไขปัญหา อุปสรรค เพื่อพัฒนาหรือปรับปรุงระบบการบริหารจัดการตามแนวทางมาตรฐาน ISO 9001 (ด้านระบบบริหารงานคุณภาพ) และการจัดทำเอกสารที่เกี่ยวข้อง
รวมถึงการกำหนดรูปแบบการบริหารจัดการต่างๆ ที่เหมาะสมสำหรับการดำเนินธุรกิจ จำนวน 36 ธุรกิจ การตรวจประเมินระบบมาตรฐานสากล ISO 9001:2015 จากหน่วยงานรับรองระบบ (Certified Body: CB) ที่สถานประกอบการในเขต กทม.
“ในปัจจุบันโลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ประกอบกับ การใช้เทคโนโลยีต่างๆ เริ่มเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตมากขึ้น ผู้ประกอบธุรกิจโลจิสติกส์ไทยจำเป็นต้องมีการปรับตัวให้สามารถบริการได้อย่างรวดเร็ว และ สร้างความเชื่อมั่นรองรับความต้องการของลูกค้า ทั้งนี้การมีศักยภาพเทียบเท่าระดับสากลจะทำให้ธุรกิจนี้ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างมั่นคงต่อไป”