นายสมเกียรติ เมสันธสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ WHAUP เปิดเผยว่า WHAUP ได้ดำเนินการซื้อขายไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคาโรงงาน (Solar Rooftop) กับบริษัท ไอซิน พาวเวอร์เทรน (ประเทศไทย) จำกัด หรือ AIPT
ทั้งนี้ WHAUP จะดำเนินการติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาภายใต้โครงการโซลาร์รูฟท็อปของ AIPT โดยมีกำลังการผลิตไฟฟ้าขนาด 3.25 เมกะวัตต์ ที่นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 2 จังหวัดชลบุรี
โดยคาดว่าจะดำเนินการติดตั้งแล้วเสร็จในช่วงกลางปี 2567 ซึ่งหากโครงการดำเนินการเสร็จสมบูรณ์จะสามารถลดค่าต้นทุนด้านพลังงานไฟฟ้าให้กับ AIPT ได้ถึง 305 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกสู่ชั้นบรรยากาศได้ 56,300 ตัน ตลอดอายุการใช้งาน 25 ปี สอดคล้องกับนโยบายของ AIPT ที่มีความมุ่งมั่น ในการรักษาสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ส่งเสริมการแก้ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมในระยะยาว เพื่อก้าวสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน
รวมถึงการลดผลกระทบจากภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยการติดตั้งโครงการดังกล่าวส่งผลให้ยอดกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วนการถือหุ้นของ WHAUP ในปีนี้เพิ่มขึ้นแตะระดับ 717.57 เมกะวัตต์ ซึ่งมาจากโครงการ Solar Rooftop จำนวน 167.33 เมกะวัตต์
อย่างไรก็ดี บริษัทฯ ยังคงมุ่งนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมสมัยใหม่มาประยุกต์ใช้ในการทำธุรกิจเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะพลังงานหมุนเวียนทั้งพลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานจากขยะอุตสาหกรรม รวมถึงโซลูชันดิจิทัล อาทิ การให้บริการแพลตฟอร์มการซื้อขายพลังงานไฟฟ้าโดยตรงระหว่างผู้ผลิตและผู้ใช้ไฟฟ้า (Peer-to-Peer) หรือการซื้อขายพลังงานไฟฟ้าโดยไม่ผ่านคนกลาง โดยใช้ระบบ Two-Sided Bidding Algorithm รวมทั้งเพิ่มความปลอดภัยในการทำธุรกรรมและอำนวยความสะดวกการซื้อขายพลังงานให้กับผู้ผลิตไฟฟ้ารายย่อยกับผู้ใช้พลังงานด้วยเทคโนโลยี Blockchain
นายโนะริทากะ คุนิเอะดะ ประธานบริษัท AIPT กล่าวว่า โครงการโซลาร์รูฟท็อปครั้งดังกล่าวนี้ สามารถตอบโจทย์ในการลดค่าต้นทุนด้านพลังงานไฟฟ้าให้กับบริษัทฯ เฉลี่ย 305 ล้านบาท อีกทั้งยังลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 56,300 ตัน ซึ่งจะช่วยให้บรรลุตามเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดซ์ออกไซค์ให้เป็นศูนย์ ภายในปี 2578
ตามแผนการดำเนินการด้านการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการ Kaizen ปรับปรุงวิธีการทำงานลดการใช้พลังงานเฉลี่ย 3 % ต่อปี และการใช้พลังงานหมุนเวียนเป้าหมายแรก 15% ภายในปี 2568 และเพิ่มเป็น 40% ภายในปี 2573 จากแผนการดำเนินการในด้านการใช้พลังงานหมุนเวียน ซึ่งสอดรับกับ SDGs.ขององค์กร