จบดราม่า ปังชา! กรมทรัพย์สินฯ ย้ำใช้ได้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษไม่ผิด

31 ส.ค. 2566 | 07:56 น.
อัปเดตล่าสุด :31 ส.ค. 2566 | 08:02 น.

กรมทรัพย์สินฯ ย้ำ “ปังชา” “Pang Cha” ใช้ได้ไม่ผิดแต่ห้ามจัดวางในลักษณะเดียวกันกับที่เจ้าของเครื่องหมายการค้าได้จดไว้ ส่วนเมนูน้ำแข็งไสชาไทย ทำขายได้ เร่งสร้างความเข้าใจเรื่องลิขสิทธิ์ สิทธิบัตร เครื่องหมายการค้า

นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า ปัจจุบันผู้ประกอบการไทยตื่นตัวและให้ความสำคัญกับเรื่องทรัพย์สินทางปัญญาเป็นอย่างมาก โดยมีการยื่นคำขอจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญากับกรมฯ มากกว่า 60,000 คำขอ/ปี ซึ่งนอกจากจะได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายแล้ว ยังสามารถนำทรัพย์สินทางปัญญาไปต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มได้อย่างเป็นรูปธรรม

นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา

กรมฯ จึงอยากเน้นย้ำให้ผู้ประกอบการไทยศึกษาและทำความเข้าใจรายละเอียดเกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญาแต่ละประเภท เพื่อให้ภาคธุรกิจไทยสามารถนำทรัพย์สินทางปัญญาไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและถูกวิธี

 

สำหรับประเด็นที่มีกระแสข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ เกี่ยวกับเมนู “ปังชา” น้ำแข็งไสรสชาไทยใส่ขนมปัง ซึ่งมีผู้ประกอบการรายหนึ่งอ้างสิทธิในการได้รับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า สิทธิบัตร และลิขสิทธิ์นั้น ต้องทำความเข้าใจว่าเครื่องหมายการค้า ได้รับจดทะเบียนไว้แบบไหนจะคุ้มครองตามรูปแบบที่จดได้ และเฉพาะการใช้คู่กับสินค้าหรือบริการที่ระบุไว้ในคำขอเท่านั้น

กรณีนี้ผู้ประกอบการดังกล่าวได้ยื่นจดเครื่องหมายการค้ากับกรมฯ ไว้ 9 เครื่องหมาย ทุกเครื่องหมายมีการสละสิทธิคำว่า “ปังชา” และ “Pang Cha” ยกเว้นคำขอเลขที่ 220133777 ซึ่งเป็นเครื่องหมายที่มีองค์ประกอบของคำว่า Pang Cha และรูปไก่ประดิษฐ์วางอยู่ในวงรี โดยผู้ยื่นคำขอได้นำส่งหลักฐานว่ามีการใช้เครื่องหมายนี้มาอย่างต่อเนื่องยาวนานจนเป็นที่รู้จักแพร่หลาย กรมฯ จึงรับจดทะเบียน

โดยไม่มีการสละสิทธิคำว่า Pang Cha โดยเป็นไปตามหลักของกฎหมาย ซึ่งผู้ประกอบการมีสิทธิแต่เพียงผู้เดียวที่จะใช้เครื่องหมายนี้ตามองค์ประกอบของคำและภาพตามที่ได้รับจดทะเบียน แต่ไม่สามารถดึงเฉพาะบางส่วนของเครื่องหมาย คือ คำว่า “Pang Cha” มาอ้างว่าเป็นเจ้าของสิทธิแต่เพียงผู้เดียว ขอย้ำว่า บุคคลอื่นยังสามารถนำคำนี้ไปใช้ได้ แต่ต้องไม่ใช้ทั้งภาพและคำในรูปแบบเดียวกันกับที่ผู้ประกอบการรายนี้ได้รับจดทะเบียนเอาไว้แล้ว เพราะจะเป็นการละเมิดเครื่องหมายการค้าได้

ส่วนสิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ ผู้ประกอบการรายนี้มีการจดทะเบียนภาชนะสำหรับใส่ปังชาไว้แล้ว แต่ไม่ได้จดสิทธิบัตรหรืออนุสิทธิบัตรในสูตรปังชาซึ่งเป็นสิ่งที่มีมานานแล้ว ผู้ประกอบการร้านอาหารที่มีเมนูน้ำแข็งไสรสชาไทยจึงสามารถทำขายต่อไปได้

ทั้งนี้ อยากฝากถึงผู้ประกอบการว่า การออกแบบเครื่องหมายการค้า ควรเลือกใช้คำหรือภาพที่ไม่สื่อถึงประเภท คุณภาพ หรือลักษณะของสินค้าและบริการที่ขาย เพราะไม่มีใครสามารถอ้างสิทธิแต่เพียงผู้เดียวในคำหรือภาพเหล่านั้นได้ ซึ่งผู้ประกอบการอาจยังมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนในประเด็นนี้ อย่างไรก็ดี หากมีคำถามเกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญาสามารถขอคำปรึกษาได้ที่ศูนย์ให้คำปรึกษาด้านทรัพย์สินทางปัญญา (IPAC) ชั้น 4 กรมทรัพย์สินทางปัญญา หรือโทรสายด่วน 1368