นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสหกรรม เปิดเผยว่า จะดำเนินการผลักดันมาตรการอีวี3.5 (EV3.5) ภายในสิ้นปีนี้ เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า หรืออีวี (EV) ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสานต่อนโยบายที่มีศักยภาพของกระทรวงอุตสาหกรรมที่ดำเนินการมาแล้ว อีกทั้งนักลงทุนเองก็รอความชัดเจนของมาตารการดังกล่าว เพื่อประกอบการตัดสินใจในการเข้ามาลงทุนในประเทศไทย ซึ่งล่าสุดมีหลายบริษัทให้ความสนใจทั้ง เทสล่า (Tesla) และผู้ผลิตอีวีจากประเทศเเกาหลี เป็นต้น
นอจากนี้ ก็จะดำเนินการขับเคลื่อนนโยบายเกี่ยวกับการกำหนดพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ 4 ภาค ได้แก่ ภาคเหนือ ,ตะวันออกเฉียงเหนือ ,ตะวันตก และภาคใต้ โดยเฉพาะที่ภาคใต้ ซึ่งจะมีอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับฮาลาล ที่มีความเกี่ยวข้องกับความมั่นคงทางด้านอาหาร และการส่งออก
"ในช่วงที่ผ่านมาซึ่งมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด19 ทุกประเทศต่างเจอปัญหาเรื่องของความมั่นคงทางด้านอาหาร เพราะฉะนั้นจึงมองว่า อาหารฮาลาลน่าจะมีส่วนสำคัญที่สามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยได้"
อย่างไรก็ดี ปัญหาอุปสรรคของอาหารฮาลาลที่ผ่านมาเท่าที่ได้รับทราบข้อมูลก็คือ การได้รับใบอนุญาติซึ่งบางปีได้ แต่บางปีกลับไม่ดี ดังนั้น จึงต้องการดำเนินการเรื่องดังกล่าวให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของภาพลักษณ์องค์กรซึ่งต้องการให้เกิดการปรับเปลี่ยนหรือเปลี่ยนแปลง ไม่ใช่มองว่ากระทรวงอุตสาหกรรมคือกระทรวงที่ถูกใช้ดำเนินการ แต่ต้องการให้เป็นกระทรวงที่สนับสนุนและส่งเสริม
โดยจะมุ่งลดขั้นตอนการดำเนินการ และทำให้มีความดปร่งใสที่เรียกว่าเป็น One Stop Service ซึ่งผู้ประกอบการสามารถตรวจสอบได้ว่าเอกสารที่ยื่นขออยู่ในขั้นตอนใด และทำให้รวดเร็วมากยิ่งขึ้นโดยการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้