วันนี้ (17 ตุลาคม 2566) นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้มอบหมายให้กระทรวงพลังงาน ทบทวนมาตรการลดราคาน้ำมันเชื้อเพลิงเบนซิน เพื่อช่วยลดค่าครองชีพให้กับประชาชน หลังจากที่ได้ดำเนินการมาแล้วในกลุ่มน้ำมันเชื้อเพลิงดีเซล
ทั้งนี้จากสถานการณ์ในปัจจุบัน ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในตลาดโลกมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นสูง อย่างเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้น รัฐบาลจึงมีการดำเนินนโยบายเพื่อรับมือราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่สูงขึ้น รวมถึงบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งได้ดำเนินการไปแล้วในกลุ่มน้ำมันเชื้อเพลิงดีเซล ในส่วนของน้ำมันเชื้อเพลิงเบนซิน กระทรวงพลังงานได้เสนอแนวทางการปรับลดราคาน้ำมันเชื้อเพลิงเบนซิน 2 แนวทาง ได้แก่
1.ให้การช่วยเหลือสำหรับผู้ประกอบอาชีพขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง
2.ช่วยเหลือกลุ่มผู้มีรายได้น้อย
โดยทั้ง 2 แนวทางนี้ จะใช้เงินจากกองทุนน้ำมันเดือนละ 95 ล้าน และ 4,000 ล้านบาท ตามลำดับ โดยจากทั้ง 2 แนวทางที่ได้เสนอมา พบว่ายังไม่ครอบคลุมเท่าที่ควร เนื่องจากจุดประสงค์ในการลดราคาน้ำมันเชื้อเพลิงเบนซิน คือการลดราคาในภาพรวม ให้ประชาชนทุกคนได้ประโยชน์อย่างเท่าเทียมกัน
ดังนั้นจึงเกิดเป็นแนวทางเลือกที่ 3.ลดราคาน้ำมันเบนซินทั้งระบบ โดยตั้งเป้าว่าลดให้ไม่น้อยกว่าดีเซล แต่ทั้งนี้ต้องหารือกับกระทรวงการคลังอีกครั้ง เพื่อให้ได้ตัวเลขที่ชัดเจน
ทั้งนี้ในส่วนของรายละเอียด จะมีการพูดคุยกันเพิ่มเติม เกี่ยวกับโครงสร้างของน้ำมันเชื้อเพลิงเบนซิน รวมถึงกฏระเบียบข้อบังคับต่างๆ โดยทางรัฐบาลจะได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเรื่องค่าการตลาดอย่างเป็นทางการ เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินการในเรื่องนี้โดยเฉพาะ
“รัฐบาลได้เล็งเห็นถึงความเดือดร้อนของประชาชน จากค่าครองชีพในปัจจุบันที่พุ่งสูงขึ้น รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงได้ดำเนินการตามแนวนโยบาย เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระให้กับประชาชนทุกกลุ่ม โดยนโยบายการลดราคาน้ำมันเชื้อเพลิงเบนซิน ถือเป็นหนึ่งในนโยบายที่รัฐบาลต้องการดำเนินการอย่างเร่งด่วน ซึ่งคณะกรรมการดังกล่าวจะประชุมกันนัดแรกในวันที่ 18 ตุลาคม 2566 และคาดว่าจะมีข้อสรุปโดยเร็ว” นางรัดเกล้า กล่าว