บขส.ปลุกแผนจัดหารถเมล์ไฟฟ้า75 คัน 597 ล้าน

27 ต.ค. 2566 | 02:00 น.

“บขส.” กางแผนจัดหารถเมล์ไฟฟ้า 75 คัน วงเงิน 597 ล้านบาท เล็งส่งมอบรถล็อตแรกเริ่มเม.ย.67 เผยผลดำเนินงานปี 66 พุ่ง 1.9 พันล้านบาท ดันยอดผู้โดยสารแตะ 3.2 หมื่นคนต่อวัน ตั้งเป้าปี 67 เพิ่มรายได้ 30%

นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์  รองปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยในฐานะประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ว่า  ในวันที่ 3 พ.ย. 2566 นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เตรียมเดินทางมาตรวจเยี่ยม และมอบนโยบาย บขส. โดย บขส. เตรียมนำเสนอแผนการจัดหารถโดยสารพลังงานไฟฟ้า (EV) จำนวน 75 คัน วงเงินรวม 597 ล้านบาท แบ่งเป็น รถโดยสารขนาดใหญ่ มาตรฐาน 1 (ข) ขนาดไม่ต่ำกว่า 36 ที่นั่ง จำนวน 21 คัน วงเงิน 368.73 ล้านบาท และรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า ขนาดเล็ก มาตรฐาน 2 ค ขนาดไม่ต่ำกว่า 27 ที่นั่ง (มินิบัส) จำนวน 54 คัน 228.26 ล้านบาท

 

สำหรับกระบวนการจัดหารถเมล์ไฟฟ้าในครั้งนี้ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการกำหนดราคากลาง คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนตุลาคม 2566 จากนั้นจะเสนอต่อคณะกรรมการ (บอร์ด) บขส. อีกครั้งภายในเดือนพฤศจิกายน 2566 ก่อนจะเข้าสู่กระบวนการประชาพิจารณ์ และเข้าสู่ขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้าง ลงนามในสัญญา เพื่อให้เอกชนดำเนินการประกอบรถต่อไป 

 

ทั้งนี้แผนจัดหารถฯดังกล่าวจะเป็นการเช่าระยะสัญญา 5 ปี โดยคาดว่าจะทยอยส่งมอบรถโดยสารพลังงานไฟฟ้าล็อตแรก จำนวน 48 คัน ภายในช่วงเดือนเมษายน 2567 ประกอบด้วย รถมินิบัส ขนาดไม่ต่ำกว่า 27 ที่นั่ง จำนวน 27 คัน และรถโดยสารขนาดใหญ่ ขนาดไม่ต่ำกว่า 36 ที่นั่ง จำนวน 21 คัน ส่วนรถมินิบัสพลังงานไฟฟ้าที่เหลืออีก 27 คัน จะส่งครบภายในปี 2567

ส่วนของเส้นทางเดินรถโดยสารพลังงานไฟฟ้าขนาดใหญ่ (ไม่ต่ำกว่า 36 ที่นั่ง) จำนวน 7 เส้นทาง ประกอบด้วย เส้นทางกรุงเทพฯ-คลองลาน, กรุงเทพฯ-กำแพงเพชร, กรุงเทพฯ-สากเหล็ก พิษณุโลก, กรุงเทพฯ-พิษณุโลก, กรุงเทพฯ-บุรีรัมย์, กรุงเทพฯ (เอกมัย)-แหลมงอบ และกรุงเทพฯ (จตุจักร)-ตราด

 

 ขณะที่รถมินิบัสพลังงานไฟฟ้า (ไม่ต่ำกว่า 27 ที่นั่ง) เส้นทางเดินรถ 5 เส้นทาง ประกอบด้วย เส้นทางหมอชิต-สระบุรี, รังสิต-ม.บูรพา, รังสิต-แหลมฉบัง, รังสิต-นิคมอุตสาหกรรมบ่อวิน และรังสิต-มาบตาพุด-ระยอง

 

“แผนการจัดหารถโดยสารพลังงานไฟฟ้าของ บขส.ในครั้งนี้ เพื่อลดต้นทุนด้านเชื้อเพลิง ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการลดค่าใช้จ่ายให้กับ บขส. และที่สำคัญ ยังช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชน ที่เดินทางกับ บขส. ในเส้นทางที่มีระยะทางไม่เกิน 300 กิโลเมตร (กม.) ด้วย” 
 

นายสรพงศ์ กล่าวต่อว่า สำหรับผลการดำเนินงานของบขส.ในปี 2566 สามารถลดปัญหาการขาดทุนจากปีงบประมาณ 2565 ประมาณ 1,000 ล้านบาท เนื่องจากรัฐบาลมีการเปิดประเทศ ทำให้มีผู้โดยสารใช้บริการเพิ่มขึ้น ประมาณ 70% เมื่อเทียบกับปี 2565 รวมทั้งประชาชนมีความไว้วางใจในการเดินทางด้วยระบบสาธารณะมากขึ้น ส่งผลให้บขส.มีรายได้ในปี 2566 อยู่ที่ 1,900 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าปี 2565 ที่มีรายได้อยู่ที่ 1,300 ล้านบาท และสามารถลดค่าใช้จ่ายประมาณ 400 ล้านบาท จากการให้บริการเดินรถในบางเส้นทางลดลง ซึ่งเป็นเส้นทางที่มีการแข่งขันสูง รวมทั้งปรับความถี่ในการให้บริการเดินรถในจังหวัดท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น เช่น ภูเก็ต 

บขส.ปลุกแผนจัดหารถเมล์ไฟฟ้า75 คัน 597 ล้าน

“ปัจจุบันบขส.ยังคงอยู่ในสภาวะที่ขาดทุนสุทธิประมาณ 219 ล้านบาท เนื่องจากในช่วงปี 2562 บขส.มีรถให้บริการประมาณ 800 คันและมีผู้โดยสารใช้บริการประมาณ 80,000 คนต่อวัน แต่ในปัจจุบันพบว่ามีผู้โดยสารใช้บริการเหลือประมาณ 32,000 คนต่อวัน โดยบขส.พยายามประคองตัวในการลดจำนวนรถที่ให้บริการด้วยการคืนสัญญาเช่ารถ ทำให้ลดค่าใช้จ่ายไปได้มาก  แต่ยังดำเนินการให้บริการในเส้นทางหลักตามเดิม”

 

ขณะเดียวกันบขส.ยังเจอสภาวะของต้นทุนพลังงานถึงแม้ว่าบางช่วงจะได้รับการช่วยเหลือจากภาครัฐในการประกันราคาน้ำมันดีเซล 30 บาท ทำให้บขส.ยังอยู่ในสภาวะที่ต้องลดรายจ่ายและหามาตรการเพิ่มรายได้ โดยในช่วง 1 ปีที่ผ่านมามติครม.อนุมัติให้บขส.ดำเนินการธุรกิจขนส่งพัสดุ ซึ่งบขส.ได้ร่วมมือกับบริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด ในการขนส่งสินค้าในเส้นทางที่มีการให้บริการอยู่แล้ว 

 

ขณะที่บริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด จะรับพัสดุจากบขส.เพื่อส่งไปยังผู้รับถึงที่หมายปลายทาง โดยจะนำร่องให้บริการใน 2 จังหวัด ประกอบด้วย ชลบุรีและสุพรรณบุรี ทำให้ในปัจจุบันบขส.มีรายได้จากการขนส่งสินค้ากว่า 200 ล้านบาท โดยบขส.ต้องเร่งรัดการปรับปรุงในการให้บริการพัสดุเพิ่มขึ้น คาดว่าบขส.จะมีรายได้เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 200 ล้านบาท ภายในปี 2567-2568 

 

นอกจากนี้ในปี 2566 พบว่ามีจำนวนผู้โดยสารใช้บริการเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 35,000-36,000 คนต่อวัน จากเดิมในช่วง 3 ปีที่ผ่านมามีผู้โดยสารใช้บริการประมาณ 8,000-13,000 คนต่อวัน คาดว่าภายในปี 2567 จะมีจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 40,000-45,000 คนต่อวัน  ส่งผลให้บขส.มีรายได้เพิ่มขึ้น 10-30%