รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) ระบุถึงประเด็นที่ราคาน้ำตาลทรายหน้าโรงงานที่เพิ่มขึ้น 4 บาทต่อกิโลกรัม(กก.) แบ่งเป็น น้ำตาลทรายขาวจากกก.ละ 19 บาท เป็นราคากก.ละ 23 บาท และน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์จากกก.ละ 20 บาท เป็นกก.ละ 24 บาท มีผลวันที่ 28 ตุลาคมที่ผ่านมาว่า การปรับราคาดังกล่าวมีความจำเป็นต่ออุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย เพราะต้องให้ราคาตกถึงเกษตรกรชาวไร่
หลังจากที่ตลาดโลกปรับสูงขึ้นมาก ทำให้ราคาหน้าโรงงานเพิ่มขึ้นมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ราคาส่วนที่เพิ่มไม่ได้ตกกับชาวไร่ เป็นโรงงานได้ทั้งหมด
รวมถึงผลจากราคาที่เพิ่มขึ้นยังจูงใจให้โรงงานส่งออก และมีกองทัพมดลักลอบส่งออกประเทศเพื่อนบ้าน สอน.จึงต้องดูแลราคาให้เหมาะสมกับกลไก
และราคาที่เพิ่มขึ้นนี้จะใช้สำหรับการคำนวณราคาอ้อยฤดูการผลิตใหม่ คือ ปี 2566/67 ด้วย
รายงานข่าวระบุว่า สำหรับราคาขายปลีกต้องทำความเข้าใจก่อนว่าน้ำตาลทรายไม่ใช่สินค้าควบคุม การกำหนดราคาจึงเป็นไปตามกลไก
หากสอน.ประกาศขึ้นราคาช้าจะยิ่งทำให้เกิดการกักตุนจากกลุ่มที่บริโภคน้ำตาลในปริมาณมาก อาทิ ยี่ปั๊วซาปั๊ว เพราะกลุ่มนี้ซื้อจากโรงงานโดยตรงซึ่งโรงงานขึ้นราคามาระยะหนึ่ง ทำให้กลุ่มนี้มากว้านซื้อในโมเดิร์นเทรด กระทบผู้บริโภครายย่อยหรือประชาชนทั่วไป
"การดูแลขายปลีกเป็นหน้าที่ของกระทรวงพาณิชย์ โดยมองว่าหากผู้ประกอบการที่ใช้ผลิตอาหารอ้างต้นทุนน้ำตาลขอปรับราคาสินค้า เมื่อน้ำตาลโลกลดลงจนหน้าโรงงานลดลง ขายปลีกลดลง ผู้ประกอบการก็ต้องรับปากด้วยว่าจะลดราคาสินค้าเช่นกัน"