นายสมชาย มรกตศรีวรรณ ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการจัดหางาน เปิดเผยว่า จากกรณีสื่อมวลชน เผยแพร่ข่าวแม่ของแรงงานไทยที่เสียชีวิตจากเหตุความไม่สงบในอิสราเอลยังไม่ได้รับเงินเยียวยาจากกระทรวงแรงงาน นั้น เกี่ยวกับเรื่องนี้กระทรวงแรงงานให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง
และยืนยันว่ามีการกำชับหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ดำเนินการให้แรงงานไทยหรือทายาทได้รับสิทธิประโยชน์จากกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศโดยเร็วที่สุด
ในกรณีนายพงษธร ขุนศรี แรงงานไทยที่เสียชีวิตจากเหตุความไม่สงบในอิสราเอล มีการส่งร่างกลับประเทศไทย เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2566 ด้วยสายการบิน El Al เที่ยวบินที่ LY083 และส่งร่างของผู้เสียชีวิตกลับถึงภูมิลำเนา เพื่อให้ครอบครัวนำไปประกอบพิธี ในวันเดียวกัน โดยทางสำนักงานจัดหางานจังหวัดนครราชสีมาได้ติดต่อประสานญาติผู้เสียชีวิตทราบว่า ครอบครัวทำพิธีฌาปนกิจในวันที่ 22 ตุลาคม 2566 และดำเนินการตามประเพณี จึงนัดหมายพาแม่ของผู้เสียชีวิตไปสืบทายาทที่ว่าการอำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดนครราชสีมา ในวันที่ 27 ตุลาคม 2566 และรับเรื่องจากทายาท เพื่อส่งข้อมูลผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ขออนุมัติการจ่ายสิทธิประโยชน์เยียวยาจากกองทุนฯตามลำดับ
ล่าสุดกรณีของนายพงษธร มีการอนุมัติให้มีการจ่ายเงินสงเคราะห์ กรณีเสียชีวิต จำนวน 40,000 บาทแล้วเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2566 ซึ่งนางสุรางคณาฯ ได้รับทราบและเข้าใจเป็นอย่างดี และได้ขอบคุณกระทรวงแรงงานที่ช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้ตนรับสิทธิ์ประโยชน์ในครั้งนี้ ทั้งนี้ทางธนาคารกรุงไทยจะโอนเงินสงเคราะห์ผ่านบัญชีอิเล็กทรอนิกส์ให้ทายาทของนายพงษธร ฯ ในวันจันทร์ที่ 6 พฤศจิกายน 2566 ซึ่งเป็นวันทำการ
นายสมชาย กล่าวว่า สำหรับแรงงานไทยที่เป็นสมาชิกกองทุนฯ จะได้รับสิทธิประโยชน์เยียวยาจากกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ กรณีประสบปัญหาต้องเดินทางกลับประเทศไทยเนื่องจากภัยสงคราม รายละ 15,000 บาท หรือกรณีที่มีการรับรองจากแพทย์ว่าทุพพลภาพ จะได้รับการสงเคราะห์ เป็นจำนวน 30,000 บาท หรือกรณีเสียชีวิตในต่างประเทศ จะสงเคราะห์จำนวน 40,000 บาท และค่าใช้จ่ายในการจัดการศพในต่าง ประเทศเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 40,000 บาท
โดยสามารถยื่นเอกสารหลักฐานเพื่อรับสิทธิประโยชน์จากกองทุนฯ ได้ที่ศูนย์ช่วยเหลือแรงงานและติดตามสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล กระทรวงแรงงาน หรือสำนักงานจัดหางานจังหวัดที่อยู่ในภูมิลำเนา โดยเตรียมเอกสารสำคัญ อาทิ สำเนาบัตรสมาชิกกองทุนฯ (ถ้ามี) สำเนาหนังสือเดินทาง (ทุกหน้าที่มีข้อมูลและมีตราประทับ ถ้าไม่ได้ประทับตราวันที่กลับเข้าไทยให้แนบสำเนาบัตรโดยสารเครื่องบินวันที่เดินทางกลับเข้าประเทศไทย) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาใบอนุญาตทำงาน หรือ สำเนาบัตรวีซ่าทำงาน สำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคารของผู้ยื่นคำร้อง (ธนาคารใดก็ได้ พร้อมกรอกแบบฟอร์ม KTB Corporate Online) หรือในกรณีเสียชีวิตจะต้องเตรียมสำเนาใบมรณบัตร และเอกสารของทายาทซึ่งเป็นผู้รับสิทธิด้วย
โดยหากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 – 10 สำนักงานจัดหางานจังหวัดทั่วประเทศ และสายด่วน 1694 กรมการจัดหางาน