น้ำมัน WTI ดิ่งเกือบ 5% ปิดหลุด 73 ดอลลาร์ กังวลศก.สหรัฐ-จีนชะลอตัว

17 พ.ย. 2566 | 00:00 น.
อัปเดตล่าสุด :17 พ.ย. 2566 | 00:05 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือนในวันพฤหัสบดี (16 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มอุปสงค์น้ำมันในตลาดโลก หลังมีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐและจีน

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 3.76 ดอลลาร์ หรือ 4.9% ปิดที่ 72.90.ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 3.76 ดอลลาร์ หรือ 4.6% ปิดที่ 77.42 ดอลลาร์/บาร์เรล

ราคาน้ำมัน WTI และน้ำมันเบรนท์ต่างก็ปิดที่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน หรือนับตั้งแต่วันที่ 7 ก.ค. เนื่องจากตลาดวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน หลังจากสหรัฐและจีนเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ

ทั้งนี้ สหรัฐเปิดเผยตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลง 0.6% ในเดือนต.ค. และตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 13,000 ราย สู่ระดับ 231,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน และบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานสหรัฐชะลอตัวลง

นอกจากนี้ สหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกปรับตัวลง 0.1% ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมี.ค. โดยได้รับผลกระทบจากการลดลงของยอดขายรถยนต์และเฟอร์นิเจอร์

 

ทางด้านสำนักงานสถิติแห่งชาติ (NBS) ของจีนรายงานว่า ราคาบ้านใหม่ใน 70 เมืองของจีนลดลง 0.38% ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุดในรอบ 8 ปี และเป็นการส่งสัญญาณว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีนกำลังทรุดตัวลงรุนแรงมากขึ้น แม้ว่ารัฐบาลพยายามที่จะฟื้นฟูอุปสงค์ในภาคส่วนดังกล่าวก็ตาม

ตลาดยังถูกกดดันจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ซึ่งระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 3.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.8 ล้านบาร์เรล และการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐในเดือนต.ค.พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 13.2 ล้านบาร์เรล/วัน