นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้เชิญ ดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย พบหารือและเยี่ยมพื้นที่ชายแดนร่วมกัน ณ อำเภอสะเดา จ. สงขลา ในวันนี้ (27 พฤศจิกายน 2566) เพื่อผลักดัน ความร่วมมือในการพัฒนาพื้นที่ชายแดนไทย – มาเลเซีย
โดยกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เปิดเผยว่า การพบหารือในครั้งนี้ เป็นการต่อยอดการเยือนมาเลเซียอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 11-12 ตุลาคม 2566 มีวัตถุประสงค์เพื่อผลักดันความร่วมมือในการพัฒนาพื้นที่ชายแดนไทย – มาเลเซีย อย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะด้านการค้าชายแดน การท่องเที่ยว และการอำนวยความสะดวกการเดินทางข้ามแดน
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีจะหารือกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซียเกี่ยวกับการเร่งรัดโครงการความเชื่อมโยงที่สำคัญบริเวณชายแดนเพื่อยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนของทั้งสองประเทศ ได้แก่
ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีของทั้งสองประเทศจะร่วมกันสำรวจโครงการก่อสร้างถนนเชื่อมด่านสะเดาแห่งใหม่กับด่านบูกิตกายูฮิตัมของมาเลเซีย และนายกรัฐมนตรีจะเยี่ยมชมด่านบูกิตกายูฮิตัมของมาเลเซีย ตามคำเชิญของนายกรัฐมนตรีมาเลเซียด้วย
ทั้งนี้ ด่านศุลกากรสะเดา เป็นด่านการค้าชายแดนที่มีปริมาณการค้าชายแดนและผ่านแดนสูงที่สุดของประเทศไทย และนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเป็นนักท่องเที่ยวที่เข้ามาไทยมากเป็นอันดับหนึ่งในปี 2565 มีจำนวนสูงถึง 2.7 ล้านคน โดยมากกว่า 1 ใน 3 เดินทางเข้าประเทศไทยผ่านทางด่านสะเดา
ด้านนายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยวานนี้ (26 พ.ย.) ว่า ผู้นำไทยและมาเลเซียเห็นพ้องกันในการผลักดันการค้าชายแดน การแก้ปัญหาความแออัดของด่านสะเดา รวมถึงการก่อสร้างเส้นทางเชื่อมด่านสะเดาแห่งใหม่กับด่านบูกิตกายูฮิตัมของมาเลเซีย และประเด็นความร่วมมืออื่น ๆ ให้มีผลคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะกระชับความร่วมมือในทุกด้าน โดยเฉพาะการค้าการลงทุน และความสัมพันธ์ระดับประชาชน ซึ่ง มาเลเซียเป็นคู่ค้าลำดับที่ 4 ของไทย และเป็นคู่ค้าใหญ่ที่สุดของไทยในอาเซียน โดยตั้งเป้าจะเพิ่มมูลค่าการค้าให้บรรลุเป้าหมายที่ 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2568 โดยการค้าระหว่างกันส่วนใหญ่เป็นการค้าชายแดนและผ่านแดน
การค้าชายแดนไทย - มาเลเซีย ในปี 2565 มีมูลค่า 336,125 ล้านบาท คิดเป็น 31.76% ของมูลค่าการค้าชายแดนของไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยส่วนใหญ่ผ่านด่านศุลกากรสะเดา ปาดังเบซาร์ เบตง และสุไหงโก-ลก ตามลำดับ นอกจากนี้ ในปี 2565 มีนักท่องเที่ยวมาเลเซียมาเยือนไทยมากเป็นอันดับที่ 1 ทั้งปีมากกว่า 2.9 ล้านคน คิดเป็นลำดับ 1 ของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด ทำให้มาเลเซียนับเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่สำคัญและมีความสัมพันธ์หลากหลายมิติกับไทย
“การพบหารือของนายกรัฐมนตรีไทยและมาเลเซียบริเวณชายแดนด่านสะเดา สะท้อนความตกลงร่วมกันของรัฐบาลทั้งสองในการให้ความสำคัญกับการพัฒนาพื้นที่ชายแดนไทยและมาเลเซีย เพื่ออำนวยความสะดวก เพิ่มความเชื่อมโยงในการเดินทาง รวมถึงการค้าขายบริเวณชายแดนระหว่างกันให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลเพื่อประโยชน์โดยตรงของประชาชนไทยและมาเลเซีย ทั้งการค้า ลงทุน การท่องเที่ยว ด้านเศรษฐกิจ และทางด้านสังคม การไปมาหาสู่ระหว่างกัน” นายชัย กล่าว
สำหรับกำหนดการสำคัญของนายกรัฐมนตรีในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 นั้น ในเวลา 8.30 น. นายกรัฐมนตรีจะเดินทางออกจากกรุงเทพฯ ไปยังอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา โดยจะเดินทางไปถึงด่านสะเดาแห่งใหม่เวลา 11.00 น. เพื่อให้การต้อนรับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย พร้อมหารือทวิภาคี และรับฟังความคืบหน้าการพัฒนาพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย และสถานการณ์การค้าและการท่องเที่ยวบริเวณชายแดนของทั้งสองประเทศ นอกจากนี้ ผู้นำไทย-มาเลเซีย จะร่วมกันสำรวจเส้นทางเชื่อมด่านสะเดาแห่งใหม่กับด่านบูกิตกายูฮิตัมของมาเลเซีย หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรีจะเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวันแก่นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ณ โรงแรม Vista ก่อนที่นายกฯ จะเดินทางไปตรวจราชการ จ.สุโขทัย ติดตามโครงการป้องกันอุทกภัย พร้อมร่วมพิธีลอยพระประทีปพระราชทาน ที่อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ในช่วงเย็นวันนี้