คลังกำชับนำเงินนอกงบประมาณฝากแบงก์รัฐ ตุนสภาพคล่องรองรับภารกิจรัฐ

18 ธ.ค. 2566 | 12:05 น.
อัปเดตล่าสุด :18 ธ.ค. 2566 | 12:05 น.

คลังกำชับส่วนราชการนำเงินนอกงบประมาณฝากแบงก์รัฐ ตุนสภาพคล่องรองรับภารกิจรัฐ ฝั่ง “ธ.ก.ส.” ชี้สภาพคล่องแน่น ระบุเป็นการเตรียมเงินทุนหากจำเป็นใช้ หลังสำรองจ่ายเงินช่วยชาวนาเกือบแสนล้าน “ออมสิน” ยันไม่มีปัญหาสภาพคล่อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้แจ้งให้รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวง กรม และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รับทราบ ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบตามวาระที่ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้เสนอว่า ที่ผ่านมารัฐบาลได้ดำเนินโครงการที่รัฐต้องชดเชยค่าใช้จ่าย หรือสูญเสียรายได้ของหน่วยงานรัฐ ตามนัยมาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 โดยได้มอบหมายให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐเป็นกลไกสำคัญในการดำเนินงาน และสำรองค่าใช้จ่ายล่วงหน้ามาโดยตลอด 

ดังนั้น เพื่อเป็นการสนับสนุนการดำเนินกิจการของสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ จึงเห็นควรขอความร่วมมือให้ส่วนราชการ และหน่วยงานของรัฐพิจารณานำเงินนอกงบประมาณ หรือเงินรายได้ที่พึงมีมาฝากไว้กับสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐตามความเหมาะสมด้วย 

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ได้มีการขอความร่วมมือให้ส่วนราชการ และหน่วยงานของรัฐนำเงินนอกงบประมาณมาฝากไว้กับแบงก์รัฐ เนื่องจากต้องการเพิ่มสภาพคล่อง เพื่อให้แบงก์รัฐสามารถรองรับการดำเนินตามภารกิจของรัฐได้ ซึ่งขณะนี้รัฐบาลมีภารกิจที่จะดำเนินการอีกจำนวนมาก 

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง

“ก่อนหน้านี้ก็ได้ดำเนินมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร ผ่านประกันรายได้ข้าว รวมทั้งมาตรการในอนาคตอันใกล้ ซึ่งเราจะทำรวมกับมาตรการแก้ไขปัญหาหนี้สิน ซึ่งการมีสภาพคล่องเพื่อที่จะให้มีความพร้อมในการดำเนินภารกิจเป็นสิ่งสำคัญ แต่เราไม่ได้มีความเสี่ยงอะไร ซึ่งในช่วงปีใหม่นี้ก็จะมีมาตรการออกมาเพื่อเป็นของขวัญให้กับประชาชนด้วย”

นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า ตามนโยบายดังกล่าว ยืนยันว่าสภาพคล่องของธนาคารไม่ได้มีปัญหา ข้อสั่งการดังกล่าวเป็นการเตรียมเงินทุนสำรอง (standby funding) เพื่อหากมีความจำ ธนาคารจะได้ไม่ต้องระดมทุนในเครื่องมือที่มีราคาแพง ทั้งนี้ ยืนยันว่า ขณะนี้สภาพคล่องของแบงก์ยังอยู่ในระดับสูง สามารถรองรับได้ไปจนถึงเดือนพ.ค.67

ขณะที่ในปีงบประมาณ 2567 นี้ รัฐบาลก็ได้มีการตั้งงบประมาณชดเชยเงินที่ธนาคารสำรองจ่ายล่วงหน้า ผ่านมาตรา 28 ให้ ในสัดส่วนเท่าเดิมที่ 10% อยู่ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้โครงการของรัฐดำเนินการภายใต้ธ.ก.ส.จำนวนมาก เช่น โครงการเกี่ยวกับการดูแลเกษตรกร ใช้วงเงินเกือบ 1 แสนล้านบาท ได้แก่ ประกันรายได้ข้าว, โครงการไร่ละ 1,000 บาท เป็นต้น จึงทำให้สภาพคล่องของธนาคารลด แต่ไม่ได้ลดกระทั่งทำให้ธนาคารขาดสภาพคล่อง

“นโยบายดังกล่าว ถือเป็นการป้องกัน กรณีมีเหตุจำเป็นที่จะต้องใช้วงเงิน จึงต้องการให้มีวงเงินเข้ามาก่อน เพื่อเป็นการเอาเข้ามาตามสภาพราคาตลาด (market rate) ไม่ใช่การนำเข้ามาผ่านการแข่งขัน (competition rate) ที่มีต้นทุนดอกเบี้ยสูง เพราะเราก็ไม่รู้ว่าอนาคตตลาดการเงินจะมีความผันผวนอย่างไร”

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า ธนาคารยังไม่ทราบถึงนโยบายดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า ธนาคารออมสินไม่มีปัญหาเรื่องสภาพคล่อง และในส่วนของวงเงินที่รัฐบาลตั้งชดเชยให้กับธนาคารภายใต้มาตรา 28 นั้น ก็เป็นไปตามปกติ และไม่ได้มีจำนวนมาก