วันที่ 19 ธันวาคม 2566 แหล่งข่าวทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ (19 ธ.ค.66) ที่ประชุมจะพิจารณาร่างแผนการคลังระยะปานกลาง ปีงบประมาณ 2567 - 2572 หลังจากที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ ครั้งที่ 3/2566 ที่มีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นประธานได้มีมติเห็นชอบ
แหล่งข่าว กล่าวว่า สำหรับสถานะและประมาณการการคลัง ปีงบประมาณ 2567-2572 จะมีการจัดทำงบประมาณรายจ่ายแบบขาดดุลต่อเนื่อง เพื่อผลักดันให้เศรษฐกิจขยายตัวเฉลี่ยปีละ 5.3%
โดยประเมินว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) จะขยายตัวเพิ่มขึ้นจาก 19,022,250 ล้านบาทในปี 2567 เป็น 24,626,515 ล้านบาทในปี 2572
ขณะที่หนี้สาธารณะจะเพิ่มจาก 11,834,716 ล้านบาท หรือ 62.71% ต่อจีดีพี ในปี 2567 เป็น 15,371,314 ล้านบาท หรือ 62.98% ต่อจีดีพีในปี 2572
หากพิจารณาสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพีจะขึ้นไปอยู่ในระดับสูงสุดในปีงบประมาณ 2569 ที่ระดับ 64.23%ต่อจีดีพี และจะค่อยทยอยลดลง เหลือ 63.61% ในปีงบประมาณ 2571 และ 62.98% ในปี 2572
ตามแผนการคลังระยะปานกลางปีงบประมาณ 2567-2572 รัฐบาลตั้งเป้าหมายจะค่อยๆลดบทบาทการใช้จ่ายภาครัฐ โดยจัดทำงบประมาณแบบขาดดุลลดลงเรื่อย ๆ เฉลี่ยปีละ 0.2% หรือ 10,000 ล้านบาท
รายงานข่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับประมาณการสถานะการคลังปีงบประมาณ 2567-2572 มีรายละเอียดดังนี้
ประมาณการหนี้สาธารณะ 2567-2572
ประมาณการขยายตัวของจีดีพี 2567-2572