วันนี้ (19 ธันวาคม 2566) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม. ) ว่า ได้สั่งการให้น.ส.สุดาวรรณ หวังศุลกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา หารือกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) พิจารณาทำประกันภัยให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติในช่วงเทศกาลปีใหม่
โดยวงเงินการประกันภัยนักท่องเที่ยวต่างชาตินั้น กำหนดให้มีวงเงินชดเชยครอบคลุมกรณีการเสียชีวิต ตามจริงแต่ไม่เกิน 1 ล้านบาท และกรณีอุบัติเหตุชดเชยไม่เกิน 5 แสนบาท รวมทั้งให้ไปหารือกับกระทรวงสาธารณสุข เพื่อจัดระเบียบด้านสาธารณสุขและประกันสุขภาพสำหรับนักท่องเที่ยว หากมีความจำเป็นต้องใช้งบกลางให้เร่งเสนอตามขั้นตอนตามความต้องการด้วย
พร้อมกันนี้ นายกฯ ยังให้กระทรวงการท่องเที่ยวฯ เป็นเจ้าภาพเชิญประชุมรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องจากประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งประเทศกัมพูชา สปป.ลาว และเวียดนาม เพื่อร่วมกันทำแผนเชื่อมโยงการกระตุ้นการท่องเที่ยวในภูมิภาค ส่วนมาเลเซีย นั้น ในวันที่ 26 ธันวาคม 2566 นายกฯ ระบุว่า จะพบกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ซึ่งจะสอบถามด้วยว่าทางมาเลเซียสนใจด้วยหรือไม่
อีกทั้งได้ยังให้ทำงานร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อกำกับดูแลการตรวจคนเข้าเมือง และกำชับตำรวจท่องเที่ยวให้ดูแลความปลอดภัยกับนักท่องเที่ยว รวมถึงสั่งการให้กระทรวงมหาดไทย รวมถึง กทม.ให้ความสำคัญดูแลเรื่องความสะอาด และดูแลห้องน้ำให้เพียงพอกับนักท่องเที่ยว
นอกจากนี้ยังขอให้กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ เรียกประชุมและมอบนโยบายให้กับหน่วยงานของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ทั้ง 30 แห่งทั่วประเทศทำงานเชิงรุก ให้ความรู้ช่วยกันโฆษณาประเทศไทยดีอย่างไรควรจะมาท่องเที่ยวอย่างไรต่อไปด้วย
ต่อมา นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงมติครม.ว่า ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ที่ได้สั่งการให้กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ทำประกันนักท่องเที่ยวทุกคนที่จะเข้ามาในช่วงเทศกาลปีใหม่นั้น กระทรวงการท่องเที่ยวฯ เตรียมเสนอของงบกลาง วงเงิน 50 ล้านบาท มาดำเนินการ โดยในรายละเอียดจะมีการแถลงข่าวในวันที่ 20 ธันวาคม 2566 นี้ต่อไป
“กระทรวงการท่องเที่ยวฯ มองว่า การเอาเงินมาไว้ก่อนเมื่อกรณีนักท่องเที่ยวเกิดปัญหาจะได้ใช้เงินดูแลนักท่องเที่ยว แต่นายกฯ สั่งการในครม.สั่งให้ทำประกันให้นักท่องเที่ยว ดังนั้นเพื่อให้เกิดความชัดเจนว่าจะทำประกันหรือซื้อประกันอย่างไรนั้น กระทรวงการท่องเที่ยวฯ จะไปดูรายละเอียดอีกครั้ง” นายคารม ระบุ