ของขวัญปีใหม่ 2567 สำหรับผู้ซื้อบ้านของกระทรวงมหาดไทย คลอดออกมาเรียบร้อยแล้ว โดย น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทย และ โฆษกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ลงนามในกฎกระทรวง 2 ฉบับ ซึ่งมีผลเป็นการลดค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมสำหรับการโอนและการจำนองจากการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ และ ห้องชุด
ทั้งส่วนของการซื้อขายที่อยู่อาศัยมือหนึ่ง และมือสอง ซึ่งมีมูลค่าไม่เกิน 3 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนและบรรเทาภาระให้แก่ประชาชนที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองในปี 2567 เพื่อเป็นการมอบเป็นของขวัญปีใหม่ 2567 แก่ประชาชน
ทั้งนี้ ร่างกฎกระทรวงทั้ง 2 ฉบับ ประกอบด้วย
1.กฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมสำหรับการโอนและการจำนองจากการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสนับสนุนและบรรเทาภาระให้แก่ประชาชนที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง พ.ศ. 2567
2. กฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมสำหรับการโอนและการจำนองของการซื้อห้องชุด เพื่อสนับสนุนและบรรเทาภาระให้แก่ประชาชนที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง พ.ศ. 2567 ซึ่งได้ผ่านการเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้วเมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 66 ที่ผ่านมา
โดยภายหลัง รมว.มหาดไทยลงนามแล้ว กรมที่ดินจะได้นำเสนอให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ประกาศในราชกิจจานุเบกษา และมีผลบังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศถึงวันที่ 31 ธ.ค. 67 ต่อไป
สาระสำคัญของกฎกระทรวงทั้ง 2 ฉบับ ประกอบด้วย
1.การลดค่าธรรมเนียมการโอนจาก ร้อยละ 2 เหลือ ร้อยละ 1 สำหรับการซื้อขายอาคารที่อยู่อาศัย หรือ อาคารพาณิชย์ ได้แก่ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด และบ้านแถวหรืออาคารพาณิชย์ หรือ ที่ดินพร้อมอาคารที่อยู่อาศัยหรืออาคารพาณิชย์ดังกล่าว หรือ อาคารชุด ซึ่งมูลค่าไม่เกิน 3 ล้านบาท
2.ลดหย่อนค่าธรรมเนียมการจดจำนอง จากร้อยละ 1 เหลือ ร้อยละ 0.01 สำหรับการจำนองที่กระทำในคราวเดียวกับการโอน และวงเงินการจำนองไม่เกิน 3 ล้านบาท
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า การลดค่าธรรมเนียมการโอนและการจดจำนองอสังหาริมทรัพย์ครั้งนี้เป็นมาตรการต่อเนื่องจากปี 2566 ที่กรมที่ดินได้ลดค่าธรรมเนียมให้แก่ประชาชนในอัตราเดียวกัน ซึ่งนอกจากจะเป็นการสนับสนุนและบรรเทาภาระให้แก่ประชาชนที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยของตนเอง แล้วยังเป็นการส่งเสริมการซื้อขายอสังหาริทรัพย์เพื่อสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ รักษาระดับเศรษฐกิจในภาคอสังหาฯ และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับภาคอสังหาฯ ให้เกิดความต่อเนื่องด้วย