วันที่1 มกราคม 2567 นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย นางมนพร เจริญศรี นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ปลัดกระทรวงคมนาคม และผู้บริหารที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจความพร้อมในการอำนวยความสะดวกประชาชนเดินทางกลับเข้ากรุงเทพมหานครในช่วงเทศกาลปีใหม่
โดยระบุว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยพี่น้องประชาชน จึงได้มอบหมายให้กระทรวงคมนาคม เตรียมตรวจความพร้อมรองรับการเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งคาดว่าในระหว่างวันที่ 1 - 3 มกราคม 2567 จะมีประชาชนเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ ไม่ต่ำกว่าวันละ 60,000 คน
ทั้งนี้ ได้รับรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้มีผู้โดยสารเดินทางกลับเข้ามาประมาณกว่า 40,000 คน แล้ว จึงได้กำชับให้ บขส. เตรียมความพร้อมจัดรถโดยสารให้เพียงพอรองรับการเดินทางของประชาชน รวมทั้งให้ตรวจเข้มเรื่องความปลอดภัยของพนักงานขับรถ รถโดยสาร และสถานีขนส่งฯ
สำหรับการลงพื้นที่วันนี้ พบว่า รถแท็กซี่ไม่เพียงพอกับผู้โดยสาร ซึ่งสาเหตุอาจมาจากคนขับรถแท็กซี่บางส่วนได้เดินทางกลับต่างหวัดเช่นกัน จึงได้กำชับให้ บขส. และ ขสมก. ประชาสัมพันธ์ให้ผู้โดยสารได้รับทราบถึงบริการเดินรถเชื่อมต่อที่ ขสมก. ได้นำรถโดยสาร จำนวน 12 เส้นทาง มาจอดให้บริการ ณ จุดจอดรถ ในชานชาลาขาเข้า เพื่อให้ผู้โดยสารสามารถใช้บริการไปลงที่สถานีรถไฟฟ้า BTS จตุจักร หรือเส้นทางอื่น ๆ ได้
นอกจากนี้ ได้ขอความร่วมมือไปยังรถแท็กซี่ให้เข้ามารับผู้โดยสาร โดยในช่วงเทศกาลจะไม่มีการเรียกเก็บค่าจอดรถ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางให้กับประชาชน อย่างไรก็ดีในการเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ ผู้โดยสารรถ บขส. สามารถเลือกลงรถที่จุดจอด (ขาเข้า) สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ เพื่อเชื่อมต่อการเดินทางด้วยระบบรางได้อีกทางหนึ่งด้วย
นายสุริยะ กล่าวต่ออีกว่า ในส่วนของการจัดการเดินทางเชื่อมต่อ ภายใต้โครงการ “Quick Win การคมนาคม แบบไร้รอยต่อ” ได้รับรายงานจาก ขสมก. ว่า ในช่วงวันที่ 30 - 31 ธันวาคม 2566ที่ผ่านมา มีผู้ใช้บริการวันละ 8,750 คน และจากการสำรวจความพึงพอใจของผู้โดยสาร พบว่า มีความพึงพอใจมาก
เนื่องจากการเดินทางสะดวกสบายขึ้น ไม่ต้องเดินไปขึ้นรถที่อู่ ขสมก. ส่วนการแก้ปัญหาผู้มีอิทธิพล วินแท็กซี่ และรถจักรยานยนต์เถื่อน ตนได้สั่งการให้ดำเนินการแล้ว ซึ่งทาง บขส. ได้ร่วมกับกรมการขนส่งทางบก และตำรวจ สน.บางซื่อ ตั้งศูนย์ปราบปรามรถผิดกฎหมาย หากพบผู้กระทำความผิด หรือผู้บุกรุกพื้นที่ ให้ดำเนินคดีตามกฎหมายอาญาอย่างเข้มงวด