นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมติดตามความคืบหน้าโครงการเชื่อมโยงระบบขนส่งและการเดินทางในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ แนวทางการพัฒนาถนนเพิ่มศักยภาพการเดินทางระหว่างภูมิภาค และความพร้อมปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อบรรเทาปัญหาหมอกควันและฝุ่นละออง PM 2.5 โดยตนได้เดินทางร่วมกับคณะตรวจราชการในการลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นที่น่ายินดีว่า นายกรัฐมนตรีได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งที่กระทรวงคมนาคมได้เสนอในที่ประชุม รวมถึงการบรรเทาหมอกควันและฝุ่นละออง PM 2.5
ทั้งนี้การประชุมของนายกรัฐมนตรีและคณะ ร่วมกับส่วนราชการในจังหวัด ได้รับฟังการบรรยายสรุปโครงการสำคัญที่เชื่อมโยงระบบขนส่งและการเดินทางในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ได้แก่ โครงการก่อสร้างสนามบินล้านนา (เชียงใหม่แห่งที่ 2) โครงการรถแดงไฟฟ้า (EV) โครงการก่อสร้างถนนวงแหวนรอบ 3 เชียงใหม่ แผนการเดินทางจากสนามบินเชียงใหม่ไปยังสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ รวมถึงการพัฒนาถนนเพื่อเพิ่มศักยภาพการเชื่อมโยงเชียงใหม่และจังหวัดในภาคเหนือ โดยมีประเด็นสำคัญ ดังนี้
1. เร่งผลักดันโครงการท่าอากาศยานเชียงใหม่แห่งที่ 2 พื้นที่ประมาณ 8,000 ไร่ ตั้งอยู่ในอำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่และอำเภอบ้านธิ จังหวัดลำพูน อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการให้สามารถรองรับปริมาณผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นจากการขยายตัวของเศรษฐกิจและการเพิ่มเส้นทางการบินในอนาคต
2. แผนพัฒนาถนนวงแหวนรอบเมืองเชียงใหม่ รอบที่ 3 (ทล.121) ระยะทางรวม 52.957 กิโลเมตร เพื่อแก้ปัญหาปริมาณรถสะสมและการจราจรติดขัดบริเวณทางแยกสัญญาณไฟ
3. แผนพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะเพื่อเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยว 7 แห่ง ได้แก่ สวนพฤกษศาสตร์ ไนท์ซาฟารี อุทยานหลวงราชพฤกษ์ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ น้ำตกห้วยแก้ว สวนสัตว์เชียงใหม่ และเวียงกุมกาม โดยกรมการขนส่งทางบกอยู่ระหว่างประสานผู้ประกอบการขนส่งเข้ามาทำการเดินรถในเส้นทาง
สำหรับรถสองแถว (รถแดง) ได้กำชับให้เข้มงวดการติดป้ายแสดงราคาที่เป็นมาตรฐานชัดเจนบริเวณตัวรถและเพิ่มจุดหยุด - รับส่งผู้โดยสารให้ครอบคลุมและสะดวกในการเดินทาง ในส่วนของการส่งเสริมระบบขนส่งสาธารณะเป็นยานยนต์ไฟฟ้า (EV) เพื่อลดปัญหามลพิษและฝุ่น PM 2.5 มอบให้กรมการขนส่งทางบกพิจารณากำหนดมาตรฐานการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงเครื่องยนต์ของรถโดยสารสาธารณะ รวมทั้งหาแนวทางการดำเนินการที่เหมาะสมและปลอดภัย
หลังจากนั้นคณะนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางติดตามความพร้อมปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อบรรเทาปัญหาหมอกควันและฝุ่นละออง PM2.5 ชมการสาธิตวิธีการปล่อยฝนหลวง และตรวจเยี่ยมศูนย์ฝึกอบรมและพัฒนาการควบคุมไฟป่าภาคเหนือ ณ บริเวณจุดจอดอากาศยานกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กองบิน 41
นายสุริยะ กล่าวต่อว่า ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการความร่วมมือในการทำงาน ช่วยกันพัฒนาโครงข่ายทางถนน สนับสนุนการใช้รถไฟฟ้า เพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งสาธารณะ และเร่งผลักดันระบบขนส่งสาธารณะให้ทั่วถึงเพื่อลดการใช้ยานพาหนะส่วนบุคคล ดึงดูดให้คนเชียงใหม่หันมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะในการเดินทาง ลดปัญหาการจราจร ประหยัดพลังงาน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ช่วยลดปัญหาการเกิด PM 2.5